บริษัท บมจ. โอสถสภา (OSP) ประกาศผลดำเนินงานปี 2567 โดยมีรายได้จากการขาย 27,069 ล้านบาท เติบโต 3.9% แม้ว่ากำไรสุทธิจะลดลง 31.8% สู่ 1,638 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้างธุรกิจ ในไตรมาส 4 ปี 67 บริษัทมีรายได้ 6,422 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 567 ล้านบาท ส่งให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 38.5% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้ 40,000 ล้านบาทภายในปี 2571
การเติบโตของรายได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์
ในปี 2567 รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของ โอสถสภา มีมูลค่าถึง 22,154 ล้านบาท โดยเติบโต 4.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้เกิดจากความหลากหลายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ (Brand Portfolio) และการขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมียนมาร์ ลาว และอินโดนีเซีย ที่มีรายได้เติบโต 29.6% YoY ด้วยรายได้รวม 6,199 ล้านบาท ขณะเดียวกัน โอสถสภายังเริ่มขยายตลาดเข้าสู่เวียดนามด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแบบ 2-in-1 Energy + Rehydration ซึ่งได้รับผลตอบรับดีจากผู้บริโภค
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 และแผนอนาคต
สำหรับไตรมาส 4 ปี 67 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 6,422 ล้านบาท เติบโต 6.3% QoQ และมีกำไรสุทธิ 567 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่โดดเด่น ทำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้สูงถึง 38.5% ส่งผลให้ โอสถสภา มุ่งมั่นตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 40,000 ล้านบาทภายในปี 2571 พร้อมทั้งมีการเสนอจ่ายเงินปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นการสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น
กลยุทธ์การขยายตลาดและนวัตกรรม
นางสาว รติพร ราษฎร์เจริญ Group Chief Financial Officer ของ โอสถสภา กล่าวถึงความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ลดลง โดยบริษัทฯ ยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นขยายการลงทุนในตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
