การกลับมาดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในสหรัฐอเมริกา พร้อมกับนโยบาย “America First” ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและโลกอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเดือนแรกของการดำรงตำแหน่ง
มาตรการสำคัญที่ส่งผลกระทบ
- การถอนตัวจากข้อตกลงปารีส (Paris Agreement): สหรัฐฯ มุ่งเน้นการส่งเสริมการขุดเจาะน้ำมัน การทำเหมือง และการพัฒนาก๊าซธรรมชาติภายในประเทศ เพื่อช่วยลดราคาพลังงานและบรรเทาภาวะเงินเฟ้อ
- การปรับขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีน: สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีศุลกากรอีก 10% กับสินค้านำเข้าทั่วไปจากจีน ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการปรับขึ้นภาษีศุลกากรอีก 15% กับสินค้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ และอีก 10% กับสินค้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์การเกษตร และรถยนต์
- การเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก: สหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 25% กับสินค้านำเข้าทั่วไปจากแคนาดาและเม็กซิโก ยกเว้นสินค้ากลุ่มพลังงานของแคนาดาที่เก็บในอัตรา 10% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2568
- การปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม: สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีศุลกากรในอัตรา 25% กับสินค้านำเข้าเหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมจากทุกประเทศ มีผลบังคับใช้วันที่ 12 มีนาคม 2568
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
มาตรการดังกล่าวมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย โดยเฉพาะสินค้าเหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม
ข้อมูล/ภาพ : ฐานเศรษฐกิจ
