เมื่อเตรียมเข้าสู่ศักราชใหม่ เราก็จะได้ยินข่าวว่า จะมีการปรับค่าไฟเพิ่มขึ้นจากเดิม 4.18 บาทต่อหน่วย จะขึ้นไปถึง 5.49 บาทต่อหน่วย
ที่ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีคิดวิธีรับมือไว้ในช่วงเวลานี้
1. สถานการณ์ค่าไฟฟ้าในช่วง ม.ค.-เม.ย. 68
- กกพ. ได้เสนอ 3 ทางเลือก สำหรับ ค่าไฟฟ้า ระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายน 2568 โดยมีการคำนวณค่าไฟฟ้าที่ ปรับขึ้น ตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้น
- ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสำหรับช่วงเวลาดังกล่าวจะอยู่ในช่วง 4.18 บาท/หน่วย ถึง 5.49 บาท/หน่วย ขึ้นอยู่กับทางเลือกที่ผู้ใช้ไฟเลือก
- การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ต้นทุนเชื้อเพลิง, ราคาก๊าซธรรมชาติ, และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น
2. รายละเอียด 3 ทางเลือกของค่าไฟฟ้า
กกพ. เสนอ 3 ทางเลือกที่ผู้ใช้ไฟสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินในช่วงดังกล่าว:
- ทางเลือกที่ 1 : ค่าไฟฟ้า 4.18 บาท/หน่วย
- นี่คือ ทางเลือกที่มีค่าไฟต่ำที่สุด แต่มีข้อจำกัดในการ อุดหนุนค่าไฟฟ้า จาก ภาครัฐ โดยการใช้เงินอุดหนุนบางส่วน เพื่อให้ค่าไฟไม่สูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วไป
- อาจมีการ ควบคุมปริมาณการใช้ไฟ หรือมีการ ใช้มาตรการพิเศษ เช่น ลดการใช้ไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรม เพื่อรักษาความสมดุลของค่าไฟฟ้า
- ทางเลือกที่ 2 : ค่าไฟฟ้า 4.98 บาท/หน่วย
- ทางเลือกนี้มีค่าไฟที่ ปานกลาง และคาดว่าจะเป็นทางเลือกที่มีการใช้โดยส่วนใหญ่
- ค่าไฟฟ้าจะ ไม่สูงมาก แต่ยังคงต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามราคาต้นทุนการผลิตและการใช้งานไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าว
- ทางเลือกที่ 3 : ค่าไฟฟ้า 5.49 บาท/หน่วย
- นี่คือ ทางเลือกที่มีค่าไฟฟ้าสูงสุด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง
- ทางเลือกนี้จะมีค่าไฟฟ้าที่สะท้อนถึง ต้นทุนที่แท้จริง ของการผลิตไฟฟ้ามากที่สุด
- อาจมีการนำเสนอในกรณีที่ต้องการให้ ภาครัฐลดการอุดหนุน หรือหากต้องการควบคุมการใช้พลังงานในระดับที่สูงขึ้น
3. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับค่าไฟฟ้า
- ราคาก๊าซธรรมชาติ : ราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นส่งผลโดยตรงต่อ ต้นทุนการผลิตไฟฟ้า จากโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก
- การเปลี่ยนแปลงในแหล่งพลังงานทดแทน : หากพลังงานทดแทนอย่าง พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ พลังงานลม ยังไม่สามารถทดแทนแหล่งพลังงานหลักอย่างเต็มที่ อาจทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งอื่น ๆ ยังสูง
- ปริมาณการใช้ไฟฟ้า : ในช่วงฤดูร้อนที่การใช้ไฟฟ้าสูง เนื่องจากความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศสูง การใช้พลังงานในช่วงนี้จึงส่งผลให้ต้องมีการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าอย่างรอบคอบ
4. ผลกระทบและทางออกสำหรับผู้บริโภค
- ผลกระทบ : การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในช่วงนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะภาคครัวเรือนที่มีการใช้ไฟฟ้าจำนวนมากในช่วงฤดูร้อน
- ทางออก : ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถเลือกทางเลือกที่มีค่าไฟฟ้าต่ำสุด และหาวิธีในการ ประหยัดพลังงาน เช่น การปรับอุณหภูมิแอร์, ใช้หลอดไฟ LED, หรือปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
กกพ. ได้เสนอ 3 ทางเลือกของค่าไฟฟ้าในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2568 โดยมีค่าไฟฟ้าอยู่ระหว่าง 4.18 บาท/หน่วย ถึง 5.49 บาท/หน่วย ขึ้นอยู่กับทางเลือกที่เลือกและการพิจารณาของรัฐบาลเกี่ยวกับการอุดหนุนค่าไฟฟ้า การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่แพงขึ้นในปีนี้
เราเลยสรุป 5 วิธีประหยัดไฟฟ้าอย่างง่าย ที่ทำแล้วได้ผลจริง มาฝากกัน
หมั่นทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า
การทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์, พัดลม หรือเครื่องซักผ้า ช่วยให้เครื่องเหล่านั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงาน
หมั่นทำความสะอาดกรองแอร์ทุก 1-2 เดือน เพื่อให้แอร์ระบายความร้อนได้ดีขึ้นและลดการทำงานหนัก
ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน
หลายคนมักจะทิ้งอุปกรณ์ไฟฟ้าไว้ในโหมดสแตนด์บาย (Standby) ซึ่งยังคงใช้พลังงานอยู่เสมอ เช่น โทรทัศน์, เครื่องคอมพิวเตอร์, เครื่องชาร์จ เป็นต้น
ควรปิดสวิตช์ไฟฟ้าหรือถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น
ใช้หลอดไฟ LED
หลอดไฟ LED ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟแบบเก่า (หลอดไส้ หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์) และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า
ควรเปลี่ยนหลอดไฟในบ้านทั้งหมดให้เป็น LED เพื่อการประหยัดที่ยาวนาน
ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม
การปรับอุณหภูมิแอร์ให้สูงขึ้นเล็กน้อย (ประมาณ 26-27 องศาเซลเซียส) จะช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมาก ควรใช้แอร์ในโหมด พัดลม หรือ Eco mode เพื่อช่วยประหยัดไฟเพิ่มขึ้น
หากต้องการลดการใช้แอร์ในช่วงกลางวัน ลองเปิดหน้าต่างให้ลมพัดเข้า หรือใช้พัดลมช่วยในการหมุนเวียนอากาศ
ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีอัตราค่าไฟต่ำ
การไฟฟ้าจะมีการกำหนดช่วงเวลาที่ค่าไฟฟ้าถูกลงในบางช่วงเวลา (เช่นช่วงกลางคืน) การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลานี้จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ใช้เครื่องซักผ้า, เครื่องอบผ้า หรือเครื่องล้างจานในช่วงที่ค่าไฟฟ้าถูกลง เช่น ช่วงกลางคืนหรือช่วงวันหยุด
การปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า สามารถช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า, ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน, ใช้หลอดไฟ LED, ปรับอุณหภูมิแอร์ให้พอดี หรือใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีค่าไฟถูกลง ทุกวิธีสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายและยังดีต่อสิ่งแวดล้อมได้
ข้อมูล/ภาพ : CatchUp