ตำรวจไซเบอร์ บุกจับร้านขายน้ำกระท่อม หน้ามหาลัยดังกลางเมืองอุบลฯ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ยอมรับมีรายได้เฉลี่ยนับพันบาทต่อวัน กลุ่มเป้าหมายลูกค้าขาประจำเป็นกลุ่มเยาวชนและนักศึกษา แวะเวียนกันมาซื้อ
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 รรท.ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ พรมไพร รอง ผกก.2 สอท.3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 เปิดปฏิบัติการ “บุกทลายร้านจำหน่ายน้ำกระท่อมให้นักศึกษาหน้ามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี” ยึดของกลางน้ำกระท่อมบรรจุขวด รวม 310 ขวด
สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.3 ตรวจพบมีการโพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กว่ามีการเปิดร้านจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อมบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบมีร้านชื่อ “ล้านท่อม 24 ม.อุบล” มีการเปิดจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อมแบบบรรจุขวด จำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเยาวชนและนักศึกษา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาวิทยาลัย ตลอด 24 ชั่วโมง จึงนำกำลังเข้าจับกุมนายสิงหา พัฒพันธ์ อายุ 32 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี เจ้าของร้าน พร้อมตรวจยึดของกลางน้ำกระท่อมบรรจุขวด ขนาดขวดละ 1 ลิตร รวมทั้งสิ้น 310 ขวด ที่เตรียมไว้จำหน่ายให้กับลูกค้าแช่อยู่ในถังน้ำแข็งภายในร้าน จำนวน 7 ถัง ในรูปแบบเป็นกลิ่นผลไม้หลากหลายชนิด
จากการสอบปากคำนายสิงหา ให้การยอมรับว่าได้เปิดร้านลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมมานานแล้ว โดยขายปลีกในราคาขวดละ 100 บาท มีรายได้เฉลี่ยนับพันบาทต่อวัน กลุ่มเป้าหมายลูกค้าขาประจำเป็นกลุ่มเยาวชนและนักศึกษาจะแวะเวียนกันมาซื้อ
จึงได้แจ้งข้อหากระทำผิดฐาน “ผลิต มีไว้เพื่อจำหน่าย และจำหน่าย อาหารที่ห้ามผลิต หรือจำหน่าย (น้ำกระท่อมบรรจุขวด) โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๖ (๘) ประกอบมาตรา ๕๐” ประกอบกับ บัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 424) พ.ศ. 2564 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ลำดับที่ 52 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 430) พ.ศ. 2564 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 424) พ.ศ. 2564 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย” ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ดำเนินคดีต่อไป.
ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ
