ตำรวจภูธรภาค 2 ทลายเครือข่าย “บอสจีน” องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงลงทุนออนไลน์ ออกหมายจับ 33 ราย รวบตัวได้แล้ว 20 ราย เปิดออฟฟิศฐานปฏิบัติการอยู่ 2 ประเทศที่ปอยเปต กัมพูชา กับคิงส์โรมัน สปป.ลาว แฉพฤติกรรมแสบทำทีทักแชตขอซื้อที่ดินที่ไม่มีอยู่จริง หลอกตีสนิทเศรษฐินีชาว จ.ระยอง โหลดแอปฯผ่านลิงก์ชวนลงทุนเปิดร้านค้าทิพย์ในติ๊กต่อกเหยื่อรายเดียวสูญเงินไปเกือบ 60 ล้านบาท อายัดคืนได้ทันแค่ 3 ล้านบาท เช็กข้อมูลบัญชีม้าเชื่อมโยงกับเคสอื่นๆกว่า 1 พันราย ผบช.ภ.2 สั่งขยายผลไล่ล่าผู้เกี่ยวข้องพร้อมกำชับแผนคุมเข้มสกัดกั้นแนวชายแดน
ที่ บก.สส.ภ.2 จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 28 ม.ค. พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 แถลงผลงานตำรวจภูธรภาค 2 ทลายเครือข่ายหลอกลงทุนออนไลน์ ตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ที่ให้ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์หลอกลวงประชาชน และอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเด็ดขาด
ผบช.ภ.2 กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการขยายผลจากการหลอกลวงออนไลน์ จนพบองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติขนาดใหญ่ มี “บอสชาวจีน” สั่งการและรับผลประโยชน์ สามารถออกหมายจับเครือข่าย33 ราย จับได้แล้ว 20 ราย เป็นการหลอกลวงลงทุนทางออนไลน์ มิจฉาชีพทักแชตไลน์ขอซื้อที่ดินใน จ.เชียงใหม่ ทั้งที่ไม่มีการประกาศขายและไม่มีที่ดินดังกล่าวอยู่จริง เข้ามาตีสนิทเศรษฐินี จ.ระยอง ลวงให้โหลดแอปพลิเคชันผ่านลิงก์ ชวนลงทุนเปิดร้านค้าในแอปฯ TikTok ที่ทำปลอมขึ้นมา เหยื่อสูญเงินไปเกือบ 60 ล้านบาท ตำรวจสืบภาค 2 สืบสวน ขยายผลพบเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มี “บอสจีน” สั่งการ ได้หลักฐานขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดออฟฟิศหลอกลวง และออฟฟิศบัญชีม้าสแกนใบหน้า ตั้งอยู่ใน 2 ประเทศคือ ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา และคิงส์โรมัน ฝั่งสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ผ่องถ่ายเงินเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลผ่าน Orbix, Gulf Binance, BitKub พบเหยื่อแจ้งความออนไลน์แล้ว 1,009 ราย อายัดเงินคืนได้เบื้องต้นมากกว่า 3 ล้านบาท
พล.ต.ท.ยิ่งยศกล่าวว่า ผู้เสียหายรายนี้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง ตั้งแต่เดือน พ.ย.67 ว่าถูกหลอกลวงออนไลน์ คนร้ายเข้ามาพูดคุยตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย. และชวนลงทุนเรื่อยมาจนถึงช่วงกลางเดือน พ.ย. จากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายนี้มีบัญชีม้า 2 แถว บัญชีม้าแถวแรกโอนต่อให้บัญชีม้าแถวที่ 2 แล้วโอนไปยังแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล ซื้อเหรียญประเภท USDT แล้วโอนต่อไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของเครือข่ายจนหมด ตำรวจสอบสวนออกหมายจับบัญชีม้าแถวแรก 31 ราย จับกุมได้แล้ว 20 คน และออกหมายจับ “ม้ากดเงิน” หรือพนักงานกดเอทีเอ็ม 2 คน จับได้แล้ว 1 คนและสืบสวนพบบัญชีม้าแถวที่ 2 จำนวน 51 บัญชี อยู่ระหว่างการตรวจสอบวิเคราะห์
ผบช.ภ.2 กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนบัญชีม้าที่จับได้ทำให้ได้หลักฐานขององค์กรอาชญากรรมกลุ่มนี้ แบ่งออฟฟิศเป็น 2 ส่วน คือ ออฟฟิศหลอกลวง และออฟฟิศสแกนหน้าบัญชีม้า ออฟฟิศหลอกลวง ตั้งอยู่ฝั่งปอยเปต เป็นตึกปิดตาย อาทิ ตึก 25 ชั้น ตึก 18 ชั้น และตึก Hiso ส่วนออฟฟิศสแกนหน้าที่อยู่ด้านในตึกทำหน้าที่บริหารบัญชีม้า จัดหาบัญชีม้า เปิดบัญชีคริปโตเคอร์เรนซี รับโอนเงินจากการหลอกลวง โอนเงินจากบัญชีม้าแปลงเป็นเหรียญดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีออฟฟิศบัญชีม้าอยู่ในพื้นที่คิงส์โรมัน สปป.ลาว ตรงข้ามสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อีกแห่งหนึ่งด้วย จากการตรวจสอบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบบัญชีม้าในกรณีนี้เชื่อมโยงกับคดีอื่นๆ 1,009 เคสไอดี อย่างไรก็ตาม สำหรับเหยื่อรายนี้จากการดำเนินการที่รวดเร็วสามารถอายัดเงินในบัญชีม้าที่ผู้เสียหายโอนเงินไปได้ 3,184,223.91 บาท จะประสานงานกับสำนักงาน ปปง.เพื่อคืนเงินให้ผู้เสียหายต่อไป
พล.ต.ท.ยิ่งยศกล่าวย้ำว่า ได้เร่งรัดขยายผลติดตามจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้องต่อไป ขอให้คนไทยที่คิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะมีความผิดตามกฎหมาย ฐานฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน และอาจเป็นความผิดฐานมีส่วนร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 2 ได้มีแผนอรัญฯ 68 SEAL BORDER เพื่อสกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดน โดย บก.สส.ภ.2 ได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษบูรพา 491 และชุดสืบสวนลงไปอยู่ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ที่อยู่ติดกับฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้อยู่ประสานงานร่วมมือกับทุกภาคส่วน ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะต้องสงสัย ตรวจค้นบ้านของผู้มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับนำพาคนข้ามแดน สืบสวนสอบสวนขยายผลทุกกรณี
ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ