นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการจัดอันดับ “10 ธุรกิจดาวรุ่ง และ 10 ธุรกิจดาวร่วง” สำหรับปี 2568 ซึ่งเป็นการประเมินผลภายใต้การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะเติบโตได้ราว 3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง, การเข้ามาลงทุนของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก, ไทยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม BRICS และการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ท่ามกลางปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ, ปัญหาหนี้ครัวเรือนระดับสูง, ทิศทางนโยบายของรัฐบาลใหม่สหรัฐ และความไม่แน่นอนจากภัยธรรมชาติ
เปิด 10 อันดับ ธุรกิจดาวรุ่ง ปี 2568
อันดับ 1 ธุรกิจการแพทย์และความงาม, ธุรกิจ Cloud Service และธุรกิจบริการ Cyber Security
อันดับ 2 Social Media และ Online Entertainment, Youtuber, Influencer และการรีวิวสินค้า
อันดับ 3 ธุรกิจ E-commerce, Soft Power (ซีรีส์ ภาพยนตร์), ธุรกิจโฆษณา และสื่อออนไลน์
อันดับ 4 ธุรกิจ Event, คอนเสิร์ต, จัดแสดงสินค้า ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อันดับ 5 ธุรกิจความเชื่อ สายมู, ธุรกิจเงินด่วน โรงรับจำนำ, ธุรกิจประกัน
อันดับ 6 ธุรกิจให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม เช่น แม่บ้านรายวัน ซ่อมแซมอุปกรณ์, ธุรกิจผับ บาร์ คาราโอเกะ
อันดับ 7 คลินิกกายภาพ, ธุรกิจบริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า-ติดตั้ง, ธุรกิจรถยนต์ EV, ธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง
อันดับ 8 ธุรกิจการเงิน-ธนาคาร Fintech และการชำระเงินผ่านเทคโนโลยี, ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ, ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม
อันดับ 9 ธุรกิจโทรคมนาคมสื่อสาร, ธุรกิจโลจิสติกส์ Delivery คลังสินค้า, ทนายความ, Street Food ตลาดนัดกลางคืน
อันดับ 10 ธุรกิจอาหารเครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์), ธุรกิจพลังงานทดแทน, ธุรกิจโรงพยาบาล-คลินิก เกี่ยวกับสัตว์
10 อันดับ ธุรกิจดาวร่วง ปี 2568
อันดับ 1 ธุรกิจจำหน่ายและให้เช่า CD และ VDO
อันดับ 2 ธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ไม่มีแพลตฟอร์ม Online
อันดับ 3 ธุรกิจผลิต-จำหน่ายที่เก็บข้อมูล เช่น Thumb Drive
อันดับ 4 บริการส่งหนังสือพิมพ์
อันดับ 5 สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
อันดับ 6 ธุรกิจถ่ายเอกสาร
อันดับ 7 ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิมที่ไม่มีการดีไซน์ใหม่
อันดับ 8 รถยนต์มือ 2
อันดับ 9 ร้านขายเครื่องเล่นเกม
อันดับ 10 ธุรกิจผลิตกระดาษ, ร้านโชว์ห่วย

ข้อมูล/ภาพ : สำนักข่าวอินโฟเควสท์