โครงการสนับสนุนไร่ละ 1000 ปีการผลิต 2567/68 ล่าสุด ธ.ก.ส.สาขากำแพงเพชร ได้แจ้งผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า ธ.ก.ส. แจ้งกำหนดการโอนเงินไร่ละ 1,000 บาท ให้ชาวนาทั่วประเทศ เริ่ม 16 ธันวาคมนี้
ธ.ก.ส. แจ้งกำหนดการโอนเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 ไปยังเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศ กว่า 4.61 ล้านครัวเรือน วงเงินรวม 37,414 ล้านบาท ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 ไร่ โดยแบ่งการโอนเงินเป็น 5 รอบ ตามภูมิภาค ได้แก่
โครงการสนับสนุนไร่ละ 1000 ปีการผลิต 2567/68 ธ.ก.ส.กำหนดตารางโอนเงิน
- รอบที่ 1 ภาคเหนือ วันที่ 16 ธันวาคม 2567
- รอบที่ 2 ภาคกลางและภาคตะวันออก วันที่ 17 ธันวาคม 2567
- รอบที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน วันที่ 18 ธันวาคม 2567
- รอบที่ 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง วันที่ 19 ธันวาคม 2567
- รอบที่ 5 ภาคตะวันตกและภาคใต้ วันที่ 20 ธันวาคม 2567
ก่อนหน้านี้ นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวย้ำคุณสมบัติของเกษตรผู้มีสิทธิได้รับเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 10,000 บาท ว่า ต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2567/68 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 รอบที่ 1 กับกรมส่งเสริมการเกษตรซึ่งต้องไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร ปี 2567 กล่าวคือ เป็นเกษตรกรที่เพาะปลูกในช่วง 1 พ.ค. – 31 ต.ค. 67 และภาคใต้การเพาะปลูกข้าว รอบที่ 1 จะเป็นช่วง 16 มิ.ย. 67 – 28 ก.พ. 68
โดยกรมส่งเสริมการเกษตรอยู่ระหว่างการดำเนินการประมวลผลรายชื่อเกษตรกรและจะส่งรายชื่อเกษตรกรให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตั้งแต่วันนี้ 11 ธ.ค. 67 เป็นต้นไป
นายเอกภาพ ระบุ เกษตรกรสามารถตรวจสอบการขึ้นทะเบียนและการรับสิทธิภายใต้โครงการ ได้ที่เว็บไซต์ทะเบียนเกษตรกรออนไลน์ https://efarmer.doae.go.th/checkFarmer (คลิกที่นี่) หรือผ่านทางแอปพลิเคชัน FARMBOOK
ทั้งนี้การดำเนินการธุรกรรมกับกรมส่งเสริมการเกษตรจะไม่มีค่าใช้จ่าย และจะไม่ส่ง SMS หรือ LINE ให้เกษตรกรโดยตรง หากสงสัยติดต่อที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จกับทางราชการกรณีการขึ้นทะเบียนเกษตรกร มีโทษตามมาตรา 137 และมาตรา 267 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ข้อมูล/ภาพ : ฐานเศรษฐกิจ
