“ภูมิธรรม” ขอรอความชัดเจน ก.ต่างประเทศ เจรจาทูตเมียนมา ปมช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยถูกจับ ชี้ ยังไม่ชัดเจนรุกล้ำน่านน้ำหรือไม่ เพราะเส้นแบ่งยังไม่ชัด
วันที่ 2 ธันวาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยที่ถูกเรือรบเมียนมาจับกุม ว่า คณะกรรมการประสานงานชายแดนท้องถิ่น ได้คุยระหว่างสองฝ่าย ที่สำคัญคือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือประท้วงไปแล้ว และวันนี้จะเชิญเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยเข้าพบ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการทางการทูต
ส่วนทางทหารก็พยายามดูแลแต่ยังไม่ชัดเจนว่ารุกล้ำน่านน้ำเมียนมาหรือไม่ แต่สิ่งที่เห็นเป็นเรือประมง ไม่ใช่เรือติดอาวุธ ก็ได้ประท้วงไปว่าทำเกินกว่าเหตุ แต่อย่างไรก็ต้องรอการดำเนินการทางกระบวนการทางการทูต ขณะที่ทหารก็ตรึงพื้นที่ไว้ รวมถึงดูแลเรือประมง ซึ่งนำกลับมาหมดแล้ว ยกเว้นส่วนที่ถูกควบคุมตัวไป ส่วนผู้เสียชีวิตก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน
สำหรับคนที่ถูกจับไป 31 คน เป็นคนไทยเพียง 4 คน เป็นชาวเมียนมาอีก 27 คน ซึ่งให้เขาดำเนินการของเขาไป ส่วนคนไทย 4 คน เราพยายามขอตัวคืนกลับมา ซึ่งต้องคืนให้ พร้อมย้ำว่ายังต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงการต่างประเทศในการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยในวันนี้
นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า เหตุการณ์ล่าสุดที่เคยมีการยิงเรือประมง เคยเกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ในพื้นที่ภาคใต้ เป็นเรือมีธงของประเทศหนึ่งยิงเข้ามา โดยไทยได้เคลียร์ออกไป ซึ่งเส้นแบ่งทางทะเลก็จะมีลักษณะแบบนี้ เคยมีเรือไทยขอผ่านเพื่ออ้อมกลับเข้ามาในประเทศ เขาให้ขออนุญาต แต่เราไม่ขออนุญาตเพราะเป็นเส้นทางผ่านปกติ ไม่ใช่เข้าไปหาปลา
พร้อมกันนี้ ยอมรับว่าเส้นแบ่งทางทะเลไม่ชัดเจนในเรื่องการแบ่งร่องน้ำ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหา ขณะที่ประชาชน 2 ฝั่งก็ไปมาหาสู่กัน โดยคณะกรรมการประสานงานชายแดนท้องถิ่นก็อลุ่มอล่วยกัน ถือเป็นแหล่งหากินของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งขณะนี้ยังมีการถกเถียงเรื่องความชัดเจนของพื้นที่ แต่ยืนยันเรายึดเส้นเรา มีอะไรก็พูดคุยกันแล้วจบ ส่วนที่มีผู้เสียชีวิตขออย่าเพิ่งคาดเดา ขอให้รอความชัดเจนจากกระทรวงการต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามการประชุมของกระทรวงการต่างประเทศ กับทูตเมียนมาที่กระทรวงการต่างประเทศ แต่เจ้าหน้าที่กรมสารนิเทศแจ้งว่าไม่มีการแจ้งกำหนดการหรือวาระงานดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะเป็นการประชุมกันลับโดยไม่แจ้งกำหนดการให้สื่อมวลชนได้รับทราบ
ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ