ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลัง OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อชดเชยความสูญเสียจากการปิดบ่อน้ำมันลิเบีย
วันที่ 2 กันยายน 2567 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลด หลัง OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบเดือน ต.ค. 67 ราว 0.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อชดเชยกำลังการผลิตน้ำมันดิบลิเบียที่ได้ระงับการผลิตน้ำมันดิบกว่า 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง
ทั้งนี้ Libya’s National Oil Corporation เปิดเผยว่าการระงับบ่อน้ำมันดิบคิดเป็นความสูญเสียราว 63% ของกำลังการผลิตน้ำมันดิบลิเบีย
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 30 ส.ค. 2567 อยู่ที่ 73.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -2.36 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 78.80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.14 เหรียญสหรัฐ
การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐ เดือน ก.ค. 67 ปรับเพิ่ม 0.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ไตรมาส 3 โดยตัวเลขดังกล่าวอาจลดความหวังของ FED ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. 67
Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ส.ค. 67 ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ระดับ 483 แท่น ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลดลง 2 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 95 แท่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินเวียดนามปรับเพิ่มจากช่วงเทศกาลวันหยุดประจำชาติที่กำลังจะมาถึงวันที่ 2 ก.ย. 67 ขณะที่สิงค์โปร์นำเข้าน้ำมันเบนซินประจำสัปดาห์วันที่ 28 ส.ค. 67 ลดลง 19.41% เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นจีนปรับลดการผลิตน้ำมันดีเซล 6.5% สู่ระดับ 26.76 ล้านเมตริกตัน ขณะที่สิงค์โปร์นำเข้าน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์วันที่ 28 ส.ค. 67 ลดลง 9.28% เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า