เปิดตัวเพียงปีกว่า แต่ ‘หมีเนย’ หรือ Butterbear กวาดรายได้ 544 ล้านบาทในปี 2567 พร้อมกำไรสุทธิ 212 ล้านบาท สะท้อนปรากฏการณ์มาสคอตแห่งยุคที่ทรงพลังทั้งแบรนด์ดิ้งและแฟนคลับ
ในปี 2567 บริษัท บัตเตอร์แบร์ จำกัด ผู้ดูแลแบรนด์มาสคอตชื่อดัง Butterbear หรือที่เหล่าแฟนคลับรู้จักกันดีในชื่อ “หมีเนย” ได้รายงานผลประกอบการที่สร้างความฮือฮาในวงการธุรกิจและการตลาด โดยบริษัทซึ่งเพิ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 สามารถสร้างรายได้รวมตลอดปีที่สองของการดำเนินกิจการได้ถึง 544 ล้านบาท พร้อมกำไรสุทธิ 212 ล้านบาท เติบโตจากรายได้ปีแรกที่ 7.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพียง 2.7 แสนบาทเท่านั้น
ปรากฏการณ์ความสำเร็จดังกล่าวไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากการวางกลยุทธ์ทางการตลาดและการสร้างแบรนด์ที่แข็งแรง ผ่านคาแรกเตอร์ของ มาสคอตหมีสุดทะเล้น ที่สวมเพียงผ้ากันเปื้อนผืนเดียว กลายเป็นไอคอนขวัญใจแฟนๆ หรือที่เรียกกันว่า “มัมๆ” ซึ่งพร้อมสนับสนุนทุกการเคลื่อนไหวของแบรนด์อย่างเหนียวแน่น
ตลอดปี 2567 หมีเนย ได้ขยายจักรวาลแบรนด์ออกไปอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่ในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นสินค้าหลักของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังแตกไลน์ออกสู่ของที่ระลึก เสื้อผ้า เครื่องเขียน แก้วน้ำ และของใช้ในชีวิตประจำวันอีกมากมาย เสริมทัพด้วยการ คอลแลบ (collaboration) กับหลากหลายแบรนด์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่แบรนด์แฟชัน ของหวาน อาหาร เครื่องสำอาง ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์อีกนับไม่ถ้วน
ไฮไลต์สำคัญในปีที่ผ่านมา ได้แก่ การจัดงานนิทรรศการ “Buttery World Exhibition” ที่สยามพารากอน ซึ่งดึงดูดผู้เข้าชมจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเดินสายออกงานและจัดกิจกรรม แฟนมีตติ้ง ที่สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และกลุ่มแฟนคลับในระดับลึก ทำให้หมีเนยไม่ใช่แค่มาสคอต แต่กลายเป็น cultural phenomenon หรือ “ปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม” ของคนรุ่นใหม่
เมื่อพิจารณารายได้-กำไร และการเติบโตของฐานแฟนคลับแบบออร์แกนิกแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ บัตเตอร์แบร์ จะก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์สตาร์ทอัพไทยที่น่าจับตามากที่สุดแห่งยุค โดยมี “น้องเนย” เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนทั้งยอดขาย กระแส และความผูกพันทางอารมณ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
ข้อมูล : brandinside