จากเด็กแว้นในซีรีส์…สู่เจ้าของบริษัทขนส่งระดับยูนิคอร์นตัวจริงที่เปลี่ยนโฉมโลจิสติกส์ไทย
Netflix ปลุกกระแสซีรีส์ “Mad Unicorn: สงคราม ส่งด่วน” จากแรงบันดาลใจชีวิตจริงของ ‘คมสันต์ แซ่ลี’ ผู้ก่อตั้ง Flash Express ธุรกิจขนส่งแห่งแรกของไทยที่ผงาดเป็นยูนิคอร์น ด้วยมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท

จากซีรีส์สู่ชีวิตจริง: แรงบันดาลใจเบื้องหลัง Mad Unicorn
ซีรีส์ “สงคราม ส่งด่วน” ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2025 บน Netflix ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยเนื้อหาเล่าเรื่องราวของ “อดีตเด็กแว้น” ที่ลุกขึ้นมาก่อตั้งบริษัทขนส่งเพื่อโค่นเจ้าสัวผู้ผูกขาดอุตสาหกรรม โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของ คมสันต์ แซ่ลี ซีอีโอหนุ่มแห่ง Flash Express ผู้พาธุรกิจโลจิสติกส์ไทยสู่ตลาดโลก
นักแสดงนำ ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ ถ่ายทอดบทบาทตัวละครเอกได้อย่างเข้มข้น และกลายเป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้ผู้ชมสนใจเบื้องหลังของ “Flash Express” และเส้นทางของซีอีโอหนุ่มผู้ไม่ธรรมดา

คมสันต์ แซ่ลี: จากลูกพ่อค้าเชียงราย สู่ผู้บริหารพันล้าน
คมสันต์เติบโตในครอบครัวค้าขาย มีพื้นเพจากจังหวัดเชียงราย ก่อนย้ายไปเรียนและทำธุรกิจที่จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็น “ผู้ประกอบการ” ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี
จุดเปลี่ยนแรก: จากร้านขายของหน้ามอ สู่ซีอีโอบริษัทท่าทราย
ในช่วงที่ยังศึกษาอยู่ เขาเริ่มเปิดร้านขายเครื่องปรุงอาหารจีนให้กับนักศึกษาจีน จนมองเห็นโอกาสทางธุรกิจอย่างเฉียบคม ก่อนจะได้รับความไว้วางใจให้เป็นซีอีโอบริษัทท่าทรายของนักลงทุนจีนในวัยเพียง 21 ปี — และสามารถพลิกกิจการที่กำลังจะเจ๊งให้กลับมาทำกำไรถึง 15 ล้านบาทในเวลาเพียงปีกว่า
“ผมโละเครื่องจักรเก่า เปลี่ยนทีมงานใหม่ทั้งหมด แล้วใช้รายได้ไปลงทุนซื้อที่ดินที่มีทราย เกิดเป็นการผูกขาดทรายในตลาด กำไรก็พุ่งทันที”
— คมสันต์ กล่าวถึงกลยุทธ์การฟื้นธุรกิจในช่วงเริ่มต้น
ล้มแล้วลุก: เจ๊งมาแล้ว ก็ลุกขึ้นใหม่
หลังเรียนจบ คมสันต์เริ่มต้นเปิดโรงเรียนสอนภาษาไทยในเชียงใหม่ แต่ต้องปิดกิจการภายใน 6 เดือน เพราะความมั่นใจเกินไป โดยไม่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค เขายอมรับว่า “อาจารย์ที่เราจ้างไปรับสอนข้างนอกหมด จนนักเรียนไม่เข้ามาเรียนที่โรงเรียน”
แทนที่จะยอมแพ้ คมสันต์กลับลุกขึ้นมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในฐานะ “โบรกเกอร์” หรือคนกลางขายอสังหาฯ และสามารถทำกำไรให้ตัวเองมากกว่า 100 ล้านบาทภายในเวลาเพียง 1 ปีเศษ
ก้าวสู่ธุรกิจโลจิสติกส์: จากจีนสู่ไทย
ด้วยทุนที่สะสมได้ เขาก่อตั้งบริษัทโลจิสติกส์ 4T Express รับส่งพัสดุจากทั่วโลกไปยังเมืองต่างๆ ในจีน ดำเนินกิจการจนมีกำไรเดือนละ 20-30 ล้านบาท ต่อเนื่องถึง 3 ปี ก่อนจะหันกลับมามองตลาดในไทยในปี 2560
พบช่องว่าง: ไทยส่งของแพงกว่า แต่บริการด้อยกว่า
คมสันต์พบว่าแม้ประเทศไทยจะมีขนาดเล็กกว่าจีนหลายเท่า แต่ค่าขนส่งกลับแพงกว่ามาก อีกทั้งลูกค้าต้องเสียเวลาไปต่อคิวเอง ขณะที่ในจีนมีบริการไปรับพัสดุถึงหน้าบ้าน จุดนี้จุดประกายไอเดียให้เขาปฏิวัติวงการขนส่งไทย
การถือกำเนิดของ Flash Express
Flash Express เปิดตัววันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ภายใต้โมเดลธุรกิจที่แตกต่าง:
- ไม่ใช้เอาต์ซอร์ซ และ ไม่ขายแฟรนไชส์
- ลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี เบื้องหลัง (Back-end) ด้วยตัวเอง
- ได้พันธมิตรระดับโลกอย่าง IBM และ Alibaba มาร่วมพัฒนาระบบ
- ใช้งบลงทุนเริ่มต้นกว่า 5,000 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์หลัก: “ไปรับถึงบ้าน” + เทคโนโลยีอัจฉริยะ
แนวคิดสำคัญคือ “บริการไปรับถึงบ้าน” แบบเดียวกับจีน ลดต้นทุนคนเดินทาง พร้อมสร้างระบบ AI และระบบติดตาม (tracking) ที่ทันสมัย ทั้งหมดนี้ช่วยให้บริษัทแข่งขันกับรายใหญ่ในตลาดได้อย่างรวดเร็ว
ผลลัพธ์: ยูนิคอร์นตัวแรกของไทย
ภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี Flash Express กลายเป็น ยูนิคอร์นตัวแรกของประเทศไทย (บริษัทสตาร์ตอัปที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ตัวเลขปัจจุบัน (ข้อมูลล่าสุด)
- พนักงานกว่า 10,000 คน
- ครอบคลุมครบ 77 จังหวัดทั่วไทย
- จุดรับส่งพัสดุกว่า 2,500 แห่ง
- ส่งพัสดุได้มากกว่า 1 ล้านชิ้น/วัน
บทเรียนธุรกิจจาก “เด็กแว้น” สู่นักกลยุทธ์ระดับยูนิคอร์น
เรื่องราวของคมสันต์สะท้อนให้เห็นว่า “ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ” แต่คือบทเรียน และหากรู้จัก สร้างมูลค่า-ใช้เทคโนโลยี-เข้าใจตลาด ก็สามารถเปลี่ยนธุรกิจธรรมดาให้เติบโตระดับยูนิคอร์นได้
ข้อมูล : khaosod