ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 บาร์บีคิวพลาซ่า เผชิญความท้าทายไม่ต่างจากธุรกิจร้านอาหารรายอื่น ที่ต้องเผชิญกับกำลังซื้อที่แผ่วลงและการแข่งขันอันดุเดือด แต่ด้วยกลยุทธ์การตลาดเชิงลึกและการจัดแคมเปญเจาะกลุ่มผู้บริโภคอย่างตรงจุด แบรนด์ปิ้งย่างรายนี้สามารถรักษาการเติบโตของยอดขายจากร้านเดิม (Same Store Sales Growth: SSSG) ได้ถึง 4% พร้อมเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มอีก 10 แห่งในปีนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 150 สาขาทั่วประเทศ โดยยังคงเน้นสร้างประสบการณ์อาหารที่ตอบโจทย์ความรู้สึก “คุ้มค่า” ของผู้บริโภคเป็นสำคัญ
ท่ามกลางภาพรวมของธุรกิจร้านอาหารที่มีมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท และถูกมองว่าเป็นสนามแข่งขันที่ใครก็ลงเล่นได้เพียงมี “สูตรลับ” การทำอาหารกับกระทะหนึ่งใบ การรักษาฐานลูกค้าเดิมและความภักดีต่อแบรนด์กลายเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผู้บริโภคมีความรู้สึกว่าข้าวของแพง และเลือกใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
รัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่ง กำลังซื้อแม้จะไม่มีตัวเลขลดลงอย่างชัดเจน แต่ผู้บริโภคมี perception หรือความรู้สึกว่าทุกอย่างแพงขึ้น ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการจับจ่ายที่ระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งบาร์บีคิวพลาซ่าตอบสนองต่อความรู้สึกนี้ด้วยแคมเปญใหญ่ “GON BUFFET เทหมดตัก อิ่มครบ ALL IN ฟินไม่บวกเพิ่ม” พร้อมส่วนลด 50% สำหรับกลุ่มผู้สูงวัย เพื่อสร้างบรรยากาศการกินร่วมกันในครอบครัวและดึงความอบอุ่นกลับมา
การมอบโปรโมชั่นให้ผู้สูงอายุ ไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์ราคา แต่เป็นการเจาะอินไซต์ผู้บริโภคที่มองว่าการพาผู้ใหญ่ไปทานบุฟเฟต์ไม่คุ้มค่า และอาจทำให้ขาดช่วงเวลาอบอุ่นในครอบครัว การลดราคาในกลุ่มนี้จึงเป็นมากกว่าการดึงดูดยอดขาย แต่เป็นการสร้าง “โอกาสร่วมโต๊ะ” ให้กับทุกวัยในครอบครัว
ในด้านแผนธุรกิจช่วง 8 เดือนที่เหลือของปี บาร์บีคิวพลาซ่าวางแผนเปิดร้านใหม่อีก 10 สาขา โดยใช้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 6-8 ล้านบาท พร้อมเน้นย้ำยุทธศาสตร์การควบคุมต้นทุนและบริหารสภาพคล่องเพื่อรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยไม่ลดเป้าหมายการเติบโตของร้านเดิม
ถึงแม้ธุรกิจร้านอาหารจะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากเศรษฐกิจ แต่ “อาหาร” ยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ขาดไม่ได้ และการกินยังคงเป็นโมเมนต์ที่สำคัญในชีวิตคนไทย ทั้งยามสุขและยามทุกข์ บาร์บีคิวพลาซ่า ที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 38 ปีจึงได้เปรียบในแง่ความคุ้นเคยกับผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มที่มองหาอาหารที่ “คุ้มค่า” ไม่ใช่เพียงแค่ปริมาณ แต่อยู่ที่อรรถรส ประสบการณ์ และความสัมพันธ์
ในด้านกลยุทธ์การตลาด บริษัทปรับแนวทางสื่อสารให้เจาะจงและมีความหมายต่อแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่เน้นสื่อสารแบบ mass ไปยังการออกแบบคอนเทนต์ที่ “ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา” โดยใช้ข้อมูลเชิงลึก เช่น เมนูโปรดของลูกค้า หรือเวลาที่ลูกค้ามักทานอาหาร เพื่อส่งข้อเสนอที่ตรงใจและมีโอกาสแปลงเป็นยอดขายมากขึ้น
ปัจจุบันบาร์บีคิวพลาซ่ามีฐานสมาชิกถึง 3.2 ล้านราย และมากกว่า 90% ของสมาชิกทานอาหารที่ร้านเฉลี่ย 2 ครั้งต่อ 3 เดือน โดยบริษัทมองว่าการสร้าง “ฐานแฟน” ทั้งในหมู่ลูกค้าและพนักงาน เป็นเสาหลักของธุรกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว
ในยุคที่ทุกเม็ดเงินการตลาดต้องมีผลตอบแทนชัดเจน การวัดผล Return on Ad Spend กลายเป็นสิ่งสำคัญ บริษัทจึงใช้เครื่องมือดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าข้อความที่ส่งออกไปถูกส่งถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจจริง และนำไปสู่ยอดขายจริงได้ โดยยังคงรักษาจุดยืนของแบรนด์ที่ฟังเสียงของลูกค้าเป็นอันดับแรก
“วันนี้แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่แบรนด์ที่เสียงดังที่สุด แต่เป็นแบรนด์ที่ฟังเสียงลูกค้าได้ลึกที่สุด” คือแนวทางที่บาร์บีคิวพลาซ่าใช้ขับเคลื่อนธุรกิจในปีที่ท้าทายนี้
ข้อมูล : bangkokbiznews