กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนประชาชนทั่วประเทศให้ระวังพายุฤดูร้อนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 11–12 พฤษภาคม 2568 โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ที่มีแนวโน้มจะเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่า เนื่องจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงจากประเทศจีนปกคลุมเวียดนามและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่นำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงขึ้น กรมอุตุฯ ขอให้ประชาชนเตรียมรับมือและระมัดระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
พายุฤดูร้อนปกคลุมไทยตอนบน เสี่ยงฝนฟ้าคะนองและลูกเห็บตก
กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ประเทศไทยตอนบนจะมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงอาจเกิดฟ้าผ่าในบางพื้นที่ สาเหตุมาจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณเวียดนามและทะเลจีนใต้ ขณะที่อากาศร้อนในไทยตอนบนช่วยเสริมให้เกิดพายุฤดูร้อนรุนแรงมากขึ้น
พื้นที่เสี่ยงภัยในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ได้แก่ จังหวัดในภาคเหนือ เช่น แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และลำปาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี และสกลนคร ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เช่น นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และภาคตะวันออกอย่างนครนายก ปราจีนบุรี และชลบุรี
ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 พื้นที่เสี่ยงภัยยังคงครอบคลุมจังหวัดสำคัญในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยเพิ่มเติมจังหวัดชุมพรเข้ามา
ภาคใต้ระวังฝนตกหนัก คลื่นลมแรง ทะเลอันดามันคลื่นสูง
สำหรับภาคใต้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และจังหวัดชายฝั่งอันดามัน เช่น ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงจะทำให้ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1–2 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยควรเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และหลีกเลี่ยงการเดินทางในพื้นที่เสี่ยงอันตรายในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยหลีกเลี่ยงการออกเรือในวันที่มีสภาพอากาศเลวร้าย
กรมอุตุฯ แนะประชาชนวางแผนรับมือพายุฤดูร้อน
เพื่อความปลอดภัย กรมอุตุนิยมวิทยา ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงควรเสริมความแข็งแรงให้แก่พืชผลทางการเกษตร และเตรียมพร้อมป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ควรดูแลสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และวางแผนการเดินทางอย่างรัดกุม โดยติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูล : pptvhd36
