เศรษฐกิจเปราะบาง ทำเลทองกลายเป็นหลุมพราง ร้านค้าทยอยปิดตัว-เซ้งด่วน

แม้ตัวเลขเศรษฐกิจปี 2568 จะยังไม่แย่อย่างเป็นทางการ แต่ในชีวิตจริง ความเงียบเหงากลับแผ่คลุมย่านการค้าชั้นนำ ดิ วัน รัชดา, เยาวราช, บรรทัดทอง—อดีตทำเลทอง กำลังกลายเป็นสุสานธุรกิจเมื่อผู้ประกอบการแบกรับต้นทุนไม่ไหว กำลังซื้อหดหาย นักท่องเที่ยวไม่ฟื้นตัว หลายร้านจึงต้องปิดตัวหรือประกาศเซ้งในราคาขาดทุนยับ

เศรษฐกิจไทยในปี 2568 กำลังอยู่ในภาวะ “โตต่ำ-เสี่ยงสูง” ท่ามกลางแรงเสียดทานจากหลายด้าน ทั้งเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวสูง ราคาน้ำมันโลกผันผวน ความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าโลก และกำลังซื้อภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวแม้จะมีนโยบายกระตุ้นจากรัฐ ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง กดดันราคานำเข้าเพิ่ม ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนและรัสเซีย ยังไม่กลับมาเต็มที่อย่างที่เคยเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจบริการ

กรณี The One Ratchada หรือ ดิ วัน รัชดา ประกาศปิดกิจการแบบสายฟ้าแลบ เป็นภาพสะท้อนชัดเจนของภาวะ “ต้นทุนค้าง-รายได้หด” ที่ทำลายสมดุลธุรกิจ SMEs ผู้ค้ากว่า 130 รายต้องหาทางดิ้นรนครั้งใหม่ ขณะที่มาตรการช่วยเหลือด้วยการย้ายไปไนท์บาซาร์ใหม่ ถูกมองว่าขาดแรงจูงใจเพราะทำเลและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป

ที่ เยาวราช ร้านหม่าลาชื่อดังประกาศปิดตัวด้วยตัวเลขขาดทุนสะสมทะลุ 1 ล้านบาท เป็นสัญญาณว่าทำเลที่เคยเป็นแม่เหล็กดูดนักท่องเที่ยว อาจไม่สามารถพึ่งพาแรงส่งจากอดีตได้อีกต่อไป ขณะที่ บรรทัดทอง แม้จะโด่งดังในโลกออนไลน์ แต่ข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่ายสูงและพฤติกรรมลูกค้าที่ยังเน้น “มาลอง-ไม่ประจำ” กำลังกัดกร่อนโอกาสคืนทุนอย่างต่อเนื่อง

ในสายตาผู้บริโภค ร้านค้าปิดตัวอาจดูเป็นแค่การเปลี่ยนร้านใหม่ แต่ในชีวิตจริง สำหรับผู้ประกอบการแล้ว นี่คือหนี้สิน, เงินลงทุนที่จมหาย และความฝันที่พังทลาย พนักงานนับร้อยถูกเลิกจ้างแบบไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า SMEs ที่เคยเป็นเส้นเลือดฝอยของเศรษฐกิจไทยถูกตัดขาดลงเรื่อย ๆ เปรียบเหมือนต้นไม้ที่รากเน่าจากโคน ขณะที่การใช้จ่ายของคนไทยเองก็ตึงมือยิ่งขึ้น จากค่าครองชีพที่สูงขึ้นสวนทางกับรายได้ที่นิ่งหรือถดถอย

ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2568 กำลังเผชิญกับ “ความเปราะบางเชิงโครงสร้าง” อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ธุรกิจที่เคยเชื่อว่าทำเลดีจะเอาตัวรอดได้ ต้องหันกลับมาทบทวนโมเดลรายได้ใหม่ พึ่งพา “จำนวนลูกค้า” อย่างเดียวไม่พออีกต่อไป ในระยะสั้น คาดว่าการทยอยปิดตัวในทำเลทองยังมีให้เห็นต่อเนื่อง หากไม่มีมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศอย่างได้ผล ส่วนระยะยาว เศรษฐกิจไทยต้องปรับฐานใหม่ พึ่งพา “คุณภาพรายได้” มากกว่าปริมาณ เพื่อไม่ให้กลายเป็นเศรษฐกิจที่โตแต่เปราะเหมือนฟองสบู่

สถานการณ์เศรษฐกิจย่านทำเลทอง ปี 2568

  • ดิ วัน รัชดา: ปิดตัว ส่งผลกระทบต่อร้านค้ากว่า 130 ราย
  • เยาวราช: ร้านอาหารดังขาดทุนสะสมทะลุ 1 ล้านบาท
  • บรรทัดทอง: เซ้งร้านระนาว บางร้านเซ้งราคาสูงถึง 1.8 ล้านบาท
  • ลูกค้าหลัก: นักศึกษา-วัยทำงานรุ่นใหม่ ใช้จ่ายไม่บ่อย
  • ค่าใช้จ่ายธุรกิจ: ค่าเช่ารายเดือนสูงถึง 50,000 บาท / เวลาเปิดจำกัด 6 ชม.

ข้อมูล : posttoday