วิกฤตครูไทยหนี้ท่วม: ถูกฟ้องล้มละลายกว่า 5,000 คน เหตุ “กู้ง่าย-ขาดความรู้การเงิน”

วิกฤต “แม่พิมพ์ของชาติ” รุนแรงเกินคาด เมื่อข้อมูลเผย ครูไทยกว่า 5,000 คน ถูกฟ้องล้มละลาย เสี่ยงถูกให้ออกจากราชการ สาเหตุหลักมาจากระบบกู้ง่าย ขาดความรู้การเงิน และรายได้เริ่มต้นต่ำ

<strong>วิกฤตครูไทยหนี้ท่วม</strong>

ภาพรวมปัญหา: ครูกู้จนหนี้ท่วมเฉลี่ยเกือบ 2 ล้านบาทต่อคน

นายณรินทร์ ชำนาญดู นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ปัจจุบันมีข้าราชการไทยถูกฟ้องล้มละลายกว่า 7,000 ราย ในจำนวนนี้ถึง 5,000 รายเป็น “ครู”
สถิติยังพบว่า ครูไทยกว่า 9 แสนคนมีหนี้รวมกันสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท หรือเฉลี่ย 1.94 ล้านบาทต่อคน โดยเจ้าหนี้หลักได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู และธนาคารพาณิชย์

เมื่อครูถูกฟ้องล้มละลาย ย่อมส่งผลให้ “ถูกบังคับให้ออกจากราชการ” ซึ่งถือเป็นอัตราการหลุดจากระบบราชการสูงสุดเมื่อเทียบกับข้าราชการสาขาอื่นๆ


เหตุผลหลัก: “กู้ง่าย” แต่ “ขาดความรู้ทางการเงิน”

“ครูทิว” ธนวรรธน์ สุวรรณปาล จากกลุ่มครูขอสอน อธิบายว่า สาเหตุสำคัญมาจากการที่ครูกู้เงินได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู (แค่มีหนังสือรับรองจากผู้อำนวยการโรงเรียน) หรือธนาคารที่แข่งกันปล่อยกู้โดยดูแค่สถานะข้าราชการ

แม้จะมีเกณฑ์ใหม่จำกัดไม่ให้กู้เพิ่ม หากเงินเดือนเหลือน้อยกว่า 30% หลังหักหนี้สิน แต่ครูหลายคนติดเกณฑ์นี้จนต้องหันไปพึ่งหนี้นอกระบบแทน


สาเหตุของหนี้: ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย แต่เพื่อครอบครัวและปัจจัยพื้นฐาน

ครูจำนวนมากไม่ได้กู้เพื่อใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่กู้เพื่อนำไป:

  • โปะหนี้ครอบครัว เช่น หนี้เกษตรกรรมหรือหนี้การศึกษาของตนเอง
  • ซื้อรถยนต์เพื่อเดินทางไปสอนในพื้นที่ขาดแคลนระบบขนส่ง
  • ซื้อบ้านที่อยู่อาศัย

ระบบเงินเดือนครูไทย ซึ่งเริ่มต้นเพียง 15,000 บาทต่อเดือน (กำลังจะปรับเป็น 18,000 บาทในปี 2568) ไม่สอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ จนทำให้ต้องกู้หนี้ตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพ


เทียบรายได้ครูไทยกับต่างประเทศ: ปัญหาที่มากกว่าแค่เงินเดือน

เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศ:

  • อเมริกา: เงินเดือนครูเฉลี่ย 206,000 บาท/เดือน (สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 5 เท่า)
  • สวีเดน: 146,000 บาท/เดือน (สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 3.5 เท่า)
  • ญี่ปุ่น: 119,000 บาท/เดือน (สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 2.8 เท่า)

ตรงกันข้ามกับไทยที่เริ่มต้นเพียง 15,000 บาท และแม้จะปรับขึ้น เงินเดือนก็ยังต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว


แนวทางแก้ปัญหา: เพิ่มเงินเดือนอย่างเดียวไม่พอ ต้องสร้าง “วินัยการเงิน”

ครูทิวเสนอว่า การเพิ่มเงินเดือนอาจช่วยได้บางส่วน แต่การแก้ไขที่ยั่งยืนจริงๆ ต้องเริ่มจากการสร้าง “ความรู้ทางการเงิน” (Financial Literacy) ให้กับครูตั้งแต่สถาบันฝึกสอนครู

เขาเสนอว่า “สหกรณ์ออมทรัพย์ครู” ซึ่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ ควรมีบทบาทในการให้คำปรึกษาทางการเงินแก่ครูอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ปล่อยกู้เพียงอย่างเดียว

ข้อมูล : mgronline