ซีพี ออลล์ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ใหม่ 25–27 มิ.ย. นี้

ซีพี ออลล์” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่อายุ 4 ปี 10 เดือน 13 วัน ระหว่างวันที่ 25–27 มิถุนายน 2568 นี้ ให้แก่ประชาชนทั่วไป พร้อมสิทธิ์จองซื้อก่อนสำหรับผู้ถือหุ้นกู้เดิม โดยมี 6 ธนาคารและแอป TrueMoney Wallet เป็นช่องทางหลักในการรับจองซื้อ ภายใต้ระดับความน่าเชื่อถือ AA- แนวโน้มคงที่ จากทริสเรทติ้ง

กรุงเทพฯ วันที่ 29 เมษายน 2568นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer ของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขาย หุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 4 ปี 10 เดือน 13 วัน ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้เดิมและประชาชนทั่วไป โดยกำหนดวันเปิดจองซื้อสำหรับประชาชนระหว่างวันที่ 25–27 มิถุนายน 2568 ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความเปราะบางและแนวโน้มชะลอตัวจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า บริษัทจึงเห็นว่าหุ้นกู้ดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่มั่นคงและน่าสนใจ

หุ้นกู้ดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมี ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยมีการชำระดอกเบี้ย ทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ และจะมีการแจ้ง อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอน อีกครั้งก่อนวันเสนอขาย โดยหุ้นกู้และบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับ ความน่าเชื่อถือระดับ “AA-” แนวโน้ม “คงที่” เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด

สำหรับผู้ถือหุ้นกู้เดิมในชุด CPALL256B จะได้รับ สิทธิ์ในการจองซื้อก่อน ระหว่างวันที่ 28–30 พฤษภาคม 2568 ผ่าน 4 ธนาคารหลัก ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยสามารถจองซื้อได้ไม่เกินจำนวนหุ้นกู้ที่ถืออยู่เดิม ขั้นต่ำ 1,000 บาท และเพิ่มขึ้นครั้งละ 1,000 บาท

ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อระหว่างวันที่ 25–27 มิถุนายน 2568 ผ่าน 6 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย รวมถึงช่องทางดิจิทัลผ่าน แอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet โดยมีเงื่อนไขจองซื้อขั้นต่ำที่ 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

ซีพี ออลล์ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ เซเว่น อีเลฟเว่น และมุ่งสู่การเป็นจุดหมายด้านอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Drink Destination) มีแผนขยายสาขาในประเทศไทยปีละประมาณ 700 สาขา ขณะที่ ณ ปี 2567 มีจำนวนสาขารวม 15,245 สาขาทั่วประเทศ อีกทั้งยังขยายธุรกิจไปยัง กัมพูชา และ ลาว อย่างต่อเนื่อง

ด้านผลประกอบการในปี 2567 บริษัทฯ มี รายได้รวม 987,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 25,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.1% ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทฯ

ปัจจุบัน ซีพี ออลล์ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลผ่านช่องทางทางการ ได้แก่ เว็บไซต์ www.sec.or.th หรือสอบถามโดยตรงกับธนาคารที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย

ทั้งนี้ บริษัทฯ เตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพ ที่แอบอ้างชื่อบริษัทเพื่อชักชวนลงทุนผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยการเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง โดยเฉพาะช่องทาง Facebook และ Line พร้อมแนะนำให้สอบถามข้อมูลผ่านธนาคารผู้ร่วมจำหน่ายก่อนตัดสินใจลงทุน

ข้อมูล : pptvhd36