ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่ง NEX และซีอีโอร่วม ปกปิดข้อมูลสัดส่วนหุ้น

สำนักงาน ก.ล.ต. มีคำสั่งใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) (NEX) และ คณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม หลังตรวจสอบพบการปกปิดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสัดส่วนการถือหุ้นในการเสนอขายหุ้นแบบ PP เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ส่งผลให้ทั้งสองรายต้องชำระเงินค่าปรับรวม 1.07 ล้านบาท หากไม่ยินยอม ก.ล.ต. เตรียมส่งเรื่องให้พนักงานอัยการดำเนินคดีต่อศาลแพ่ง

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ได้มีการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับสองราย คือ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) (NEX) และ นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของบริษัท กรณีที่ทั้งสองเปิดเผยสารสนเทศเกี่ยวกับรายการที่เกี่ยวโยงกันโดยปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกให้แจ้งในสาระสำคัญ โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับสัดส่วนการถือหุ้นของคณิสสร์ในบริษัท NEX

การตรวจสอบพบว่าที่ประชุมคณะกรรมการของ NEX ได้มีมติเมื่อวันที่ 7 และ 11 มิถุนายน 2567 ให้มีการออกและเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 75,000,000 หุ้น แบบบุคคลในวงจำกัด (Private Placement: PP) ซึ่งมีการจัดสรรให้กับคณิสสร์ ผู้ซึ่งในขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งเป็นทั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการของบริษัท การจัดสรรดังกล่าวจึงถือเป็น “รายการที่เกี่ยวโยงกัน” ตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งบริษัทมีหน้าที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศอย่างครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม NEX ได้เผยแพร่สารสนเทศผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงวันที่ 17-18 มิถุนายน 2567 โดยอ้างอิงข้อมูลสัดส่วนการถือหุ้นของคณิสสร์ที่ล้าสมัย ไม่ตรงกับความเป็นจริงในขณะนั้น ถือเป็นการ “ปกปิดข้อความจริง” ซึ่งควรบอกให้แจ้งในสาระสำคัญ อันเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 281/10 (2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

ในส่วนของ นายคณิสสร์ ในฐานะผู้บริหารของนิติบุคคล ถูกพิจารณาว่ามีส่วนทำให้ NEX กระทำความผิด และจึงต้องรับโทษร่วมตามมาตรา 300 ประกอบมาตรา 281/10 (2) ของกฎหมายฉบับเดียวกัน

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ได้มีมติให้ทั้งสองรายใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยให้ชำระค่าปรับและค่าใช้จ่ายจากการตรวจสอบคนละ 535,361 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,070,722 บาท

มาตรการลงโทษทางแพ่งจะมีผลเมื่อผู้กระทำผิดลงนามใน “บันทึกการยินยอม” เพื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่หากปฏิเสธไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะดำเนินการส่งเรื่องต่อให้ พนักงานอัยการ เพื่อฟ้องคดีแพ่งและขอให้ศาลลงโทษในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ

ทั้งนี้ เงินค่าปรับที่ได้จากมาตรการลงโทษทางแพ่งจะถูกส่งคืนเป็น รายได้แผ่นดินผ่านกระทรวงการคลัง ตามขั้นตอนของกฎหมาย

ข้อมูล : thestandard