ธนพันธุ์ลั่นเคารพมติบอร์ด เด้งไตรรัตน์พ้นรักษาการเลขาฯ กสทช.

พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. ย้ำมติบอร์ดให้ปลด นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล พ้นจากตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. มีผลตามกฎหมาย หลังศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษายกฟ้องกรรมการ 4 คน ชี้การเปลี่ยนตัวเป็นไปโดยชอบ เตรียมเดินหน้าสอบวินัย พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงความพยายามยื้อเก้าอี้กว่า 5 ปี ท่ามกลางคำถามเรื่องความโปร่งใส


การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. ฝ่ายกิจการกระจายเสียง ออกมาย้ำจุดยืนให้เคารพมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 11/2568 ซึ่งมีการปลด นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล พ้นจากตำแหน่ง รองเลขาธิการและรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. โดยยึดหลักคำวินิจฉัยของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่พิพากษายกฟ้องกรรมการ กสทช. 4 คน กับพวกในคดีการเปลี่ยนตัวผู้รักษาการเลขาธิการฯ และการสนับสนุนงบถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022

ศาลระบุชัดว่า การดำเนินการของกรรมการทั้ง 4 คนเป็นไปตามขั้นตอนและมติที่ถูกต้องของบอร์ด กสทช. และยังมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงพฤติกรรมของ นายไตรรัตน์ ในฐานะรักษาการแทนเลขาธิการฯ ขณะนั้นด้วย

แม้ มติบอร์ด กสทช. จะมีผลตามกฎหมายตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2566 แต่กลับไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในรายงานการประชุม โดยอ้างว่ายังไม่มีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการและกระบวนการยังไม่สิ้นสุด ขณะที่ข้อเสนอของ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ ในการเปลี่ยนตัวผู้รักษาการฯ ก็ชัดเจน ได้แก่ การถอดถอนนายไตรรัตน์จากตำแหน่ง, แต่งตั้ง นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ ขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการแทน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยในกรณีนี้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม นายไตรรัตน์ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม แม้ที่ประชุมพิเศษเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 จะลงมติไม่เห็นชอบการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. คนใหม่ก็ตาม ส่งผลให้ตำแหน่งดังกล่าวยังว่างเว้นมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นเวลาร่วม 5 ปี ท่ามกลางความล่าช้าในการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งถาวร แม้จะมีหนังสือเร่งรัดจากกรรมการหลายรายแล้วก็ตาม

ปัญหาทางข้อกฎหมายยังขยายวงกว้าง เมื่อมีการตั้งข้อสังเกตว่า นายไตรรัตน์มีคำสั่งแต่งตั้งตนเองเป็นพนักงานประจำโดยไม่ได้ผ่านมติที่ประชุมบอร์ด กสทช. โดยมี นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม ลงนามในคำสั่งดังกล่าวก่อนจะขอยกเลิกในภายหลัง อ้างว่าไม่มีอำนาจตามกฎหมาย

อีกประเด็นที่ถูกจับตามองคือ การประเมินผลล่วงหน้าของนายไตรรัตน์ก่อนครบวาระถึง 7 เดือน รวมถึงคำสั่งต่ออายุการทำงานของนายไตรรัตน์และนายสุทธิศักดิ์ โดยผ่านที่ประชุมเพียงเพื่อให้ “รับทราบ” ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบโดยกรรมการ กสทช. ซึ่งเป็นข้อสงสัยว่าอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย

แหล่งข่าวใน กสทช. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนข้อพิรุธต่างๆ ดังกล่าวต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว และเรื่องอยู่ในกระบวนการสอบข้อเท็จจริง

ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ตัวจริงยังคงว่างเว้น คำถามสำคัญคือ ภายในปลายเดือนเมษายน 2568 ใครจะเป็นผู้ถูกผลักดันให้ขึ้นนั่งเก้าอี้เลขาธิการตัวจริง และกระบวนการดังกล่าวจะโปร่งใสตามครรลองของกฎหมายมากน้อยเพียงใด

ข้อมูล : mgronline