Apple Inc. เดินหน้าขยายฐานการผลิต iPhone ในอินเดีย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์ในรอบ 12 เดือนสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2025 เพิ่มขึ้นเกือบ 60% จากปีก่อนหน้า โดยเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงความพยายามของบริษัทในการกระจายความเสี่ยงออกจากจีน ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามภาษีและปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
ข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุกับ Bloomberg ว่า Apple Inc. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้ผลิต iPhone จากโรงงานในอินเดียคิดเป็นมูลค่าราว 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านรูปีอินเดียในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2025 โดย มากกว่า 20% ของ iPhone ทั่วโลก หรือ1 ใน 5 ของการผลิตทั้งหมดในประเทศแถบเอเชียใต้ ถูกประกอบในอินเดีย สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการลดการพึ่งพาจีนอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์ล็อกดาวน์จากโควิด-19 ที่รุนแรงในจีน ทำให้ Apple เริ่มปรับเปลี่ยนซัพพลายเชนมายังประเทศอื่น โดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งปัจจุบันโรงงานหลักของบริษัทอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ Foxconn Technology Group ในภาคใต้ของประเทศ ขณะที่ Tata Group ซึ่งซื้อกิจการของ Wistron Corp. และบริหารโรงงานของ Pegatron Corp. ก็กลายเป็นผู้ผลิตหลักรายใหม่ของ Apple เช่นกัน
แหล่งข่าวเปิดเผยกับ Bloombergว่า Apple ได้ส่งออก iPhone จากอินเดียไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ากว่า 17,400 ล้านดอลลาร์ ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยยอดส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องภายหลัง อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการภาษีแบบ “ตอบโต้กลับ” (reciprocal tariffs) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และแม้จะมีการผ่อนผันภาษีบางรายการในช่วงเดือนเมษายน แต่ภาษีรวมที่กำหนดกับจีนยังคงสูงถึง 145% ซึ่งยังคงเป็นแรงกดดันสำคัญที่ผลักดันให้บริษัทอเมริกันต้องย้ายฐานการผลิต
แม้ว่ารัฐบาลของ ทรัมป์ จะยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ ทำให้ iPhone ที่ผลิตในอินเดียไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้าในขณะนี้ แต่ภาระภาษีอื่นๆ ที่ยังบังคับใช้กับจีนยังคงสร้างต้นทุนที่สูงต่อ Apple และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Nvidia Corp.
แม้จะมีความพยายามในระดับนโยบายของทรัมป์ที่ต้องการให้ Apple ผลิต iPhone ภายในสหรัฐอเมริกา แต่แหล่งข่าวระบุกับ Bloomberg ว่าเรื่องนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ในระยะเวลาอันใกล้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านแรงงาน ทักษะ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยในปี 2022 นักวิเคราะห์ของ Bloomberg เคยประเมินว่า จะใช้เวลาถึง 8 ปีในการย้ายกำลังการผลิตได้เพียง 10% ออกจากจีน
ปัจจุบัน Apple ประกอบ iPhone ทุกรุ่นในอินเดีย รวมถึงรุ่นไฮเอนด์อย่าง iPhone Pro ที่ใช้วัสดุไทเทเนียม ความสำเร็จด้านการผลิตในอินเดียยังได้รับแรงหนุนจาก นโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลอินเดีย ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ซึ่งมุ่งผลักดันให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยี โดยล่าสุดรัฐบาลยังเพิ่มเงินสนับสนุนอีก 2.7 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และผลักดันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
แม้ว่า Apple จะมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนในอินเดียเพียง 8% แต่ในปีงบประมาณ 2024 บริษัทสามารถทำยอดขายรวมในประเทศแตะเกือบ 8,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก iPhone โดยตรง ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของยุทธศาสตร์ “ผลิตในอินเดีย เพื่อส่งออกทั่วโลก”
