ตลาดร้านอาหารในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่ประมาณ 5% ต่อปี โดยร้านปิ้งย่างก็ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เติบโตตามแนวโน้มนี้ มูลค่าตลาดของธุรกิจร้านปิ้งย่างในไทยสูงถึง 9,000 ล้านบาท โดย BBQ Plaza ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำในตลาดนี้ตั้งเป้าขยายสาขาอีก 10 แห่งในปีนี้ หลังจากที่มีสาขาทั่วประเทศแล้วถึง 157 สาขา ซึ่งรวมทั้งในกรุงเทพฯ (101 สาขา) และต่างจังหวัด (56 สาขา)
BBQ Plaza คาดว่าการขยายสาขาและการรีโนเวทสาขาเก่า รวมถึงการพัฒนาโมเดลสโตร์ใหม่ๆ จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในเมืองหลักและเมืองรองที่มีการเติบโตของกำลังซื้อสูงขึ้น
กลยุทธ์หลักของ BBQ Plaza
1. เสริมสร้างประสบการณ์ให้พิเศษมากขึ้น (Customer & Employee Experience)
BBQ Plaza ให้ความสำคัญกับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและพนักงาน ผ่านการบริการที่ดี การออกแบบร้านที่ทันสมัย และการพัฒนาเมนูที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม โดยมีการรักษาคุณภาพและความคุ้มค่าของอาหารในทุกๆ มิติ แม้ต้นทุนจะสูงขึ้น
2. Value for Money แม้ต้นทุนสูงขึ้น
แม้ต้นทุนวัตถุดิบและค่าดำเนินงานจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ BBQ Plaza ยังรักษาคอนเซ็ปต์ “คุ้มค่า” โดยการปรับราคาให้สมเหตุสมผล พร้อมกับการออกโปรโมชั่นที่เข้าใจง่าย สอดคล้องกับกำลังซื้อของลูกค้า
3. ตอบโจทย์ความหลากหลายของผู้บริโภค
BBQ Plaza ได้พัฒนาหลายรูปแบบเมนูและบริการ เช่น การสร้างโมเดล Self Service ที่ช่วยให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในกระบวนการการบริการ โดยเฉพาะในสาขาที่มีพื้นที่จำกัด การพัฒนา “Personal Set” เพื่อรองรับลูกค้าที่มาคนเดียว และการออกเมนูบุฟเฟ่ต์ที่ให้ลูกค้าสามารถทานได้หลากหลายแบบราคาคงที่
4. CRM 2.0: วิเคราะห์พฤติกรรมเจาะแต่ละเจเนอเรชัน
ปัจจุบัน BBQ Plaza มีสมาชิกประมาณ 3 ล้านราย โดยกลุ่มลูกค้าเมมเบอร์มีความถี่ในการกลับมาใช้บริการบ่อยขึ้น และมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่า 10-15% ซึ่ง BBQ Plaza ตั้งเป้าขยายเมมเบอร์ให้มากขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลและทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง
5. Character Marketing ผ่าน “บาร์บีก้อน”
“บาร์บีก้อน” เป็นมาสคอตที่แบรนด์ใช้ในการตลาด เพื่อสร้างความผูกพันกับลูกค้าและเสริมสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การจัดอีเวนต์และการทำสินค้าที่ระลึก
6. การขยายช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ (Multichannel & Multiproduct)
BBQ Plaza ได้พัฒนาและทดลองกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่ไม่จำกัดเฉพาะในร้าน เช่น การออกผลิตภัณฑ์ Ready-to-eat และซอสบาร์บีคิวแบรนด์ตนเอง ที่มีการเติบโตในตลาดเฉพาะ
โมเดลสโตร์รูปแบบต่างๆ
BBQ Plaza มีการพัฒนาโมเดลสโตร์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายประเภท
- Late Night Store: เปิดให้บริการถึงตี 5 ในบางสาขา เช่น ย่านนักศึกษาและคนทำงานกลางคืน
- Self Service: บางสาขา เช่น รังสิต ลูกค้าสามารถเลือกเครื่องเคียงและน้ำจิ้มด้วยตัวเอง สร้างประสบการณ์ใหม่
- Compact Store: โมเดลร้านขนาดเล็กที่สามารถเปิดในพื้นที่ขนาดจำกัดได้ พร้อมเมนูยอดนิยม
- บุฟเฟ่ต์: รูปแบบการทานแบบ “ราคาเดียว” ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากทานหลากหลายโดยไม่ต้องคิดคำนวณราคา
- Delivery Store: การทดลองเปิดร้านเฉพาะสำหรับบริการเดลิเวอรี เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่สะดวกในการสั่งซื้อออนไลน์
สถิติน่าสนใจและอินไซต์พฤติกรรมผู้บริโภค
- Dine-in ยังแข็งแกร่ง: ถึงแม้จะมีเทรนด์เดลิเวอรีที่มาแรง แต่ BBQ Plaza ยังคงมีส่วนแบ่งยอดขายจากการนั่งทานในร้านถึง 95%
- กลุ่ม “คนเดียวกินได้”: แม้จะมีสัดส่วนน้อย แต่กลุ่มนี้กำลังเติบโต ด้วยการพัฒนาชุดอาหารเดี่ยวและพื้นที่ที่เหมาะสมกับการทานคนเดียว
- พฤติกรรม Self Service กำลังมา: ลูกค้ากำลังคุ้นเคยกับการบริการตัวเองมากขึ้น โดยมีการใช้งานตู้คีออสและแท็บเล็ตในการสั่งเมนู
ความท้าทายในธุรกิจร้านอาหาร
แม้ตลาดร้านปิ้งย่างยังมีศักยภาพเติบโต แต่ BBQ Plaza ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการหลายกลุ่มลูกค้า การพัฒนาบริการและเมนูที่หลากหลาย รวมทั้งการดูแลพนักงานให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ด้วยการรักษากลยุทธ์ “Value for Money” และ “Customer Experience” ควบคู่กับการตลาดที่สร้างสรรค์ผ่านตัวมาสคอต “บาร์บีก้อน” BBQ Plaza เชื่อมั่นว่าแบรนด์ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดปิ้งย่างของไทยที่สามารถขยายตัวและรักษาฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง.
ข้อมูล/ภาพ : marketingoops
