Apple หุ้นร่วง 7.5% หลังนโยบายภาษีใหม่ของทรัมป์กระทบซัพพลายเชน

Apple กำลังเผชิญกับแรงกดดันครั้งใหญ่จากนโยบายภาษีศุลกากรใหม่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มุ่งเป้าไปยังซัพพลายเชนของบริษัท ส่งผลให้ราคาหุ้นของ Apple ลดลงถึง 7.5% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจทำให้ Apple ต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการนำเข้าสินค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาผลิตภัณฑ์และแนวโน้มธุรกิจในอนาคต

มาตรการภาษีใหม่กระทบแผนกระจายการผลิตของ Apple

Apple พยายามลดการพึ่งพาการผลิตจากจีนโดยย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยัง อินเดีย เวียดนาม และ ไทย อย่างไรก็ตาม นโยบายภาษีศุลกากรใหม่ของทรัมป์ได้กำหนดภาษีขั้นต่ำ 10% สำหรับคู่ค้าทุกรายของสหรัฐฯ พร้อม “ภาษีตอบโต้” ในหลายประเทศที่เป็นซัพพลายเชนของ Apple โดยมีอัตราภาษีที่สำคัญดังนี้:

  • เวียดนาม – 46%
  • ไทย – 36%
  • จีน – 34%
  • ไต้หวัน – 32%
  • อินเดีย – 26%
  • ญี่ปุ่น – 24%
  • มาเลเซีย – 24%
  • สหภาพยุโรป – 20%

The New York Times รายงานว่า Apple กำลังเผชิญกับภาษีนำเข้า 20% ในจีน ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่ ไต้หวัน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตชิป Apple Silicon ก็กำลังเผชิญภาษี 32% ซึ่งอาจกระทบต้นทุนการผลิตอุปกรณ์ทุกประเภทของบริษัท

Apple อาจไม่มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นภาษีเหมือนเดิม

ในสมัยดำรงตำแหน่งครั้งก่อน ทรัมป์ เคยให้สิทธิ์ Apple ในการได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าบางประเภท แต่ครั้งนี้ ทรัมป์ระบุชัดเจนว่าจะไม่มีข้อยกเว้นดังกล่าว Morgan Stanley คาดการณ์ว่าหาก Apple ไม่ได้รับการยกเว้น อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 8.5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี จากการนำเข้าสินค้าจากจีน

แม้ว่ายังไม่ชัดเจนว่า Apple จะผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้บริโภคหรือไม่ แต่หากเกิดขึ้นจริง อาจทำให้ราคาของ iPhone, iPad และ Mac สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อยอดขายในอนาคต

ปัญหาด้านแรงงานและความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ ทิม คุก ซีอีโอของ Apple เคยระบุว่า สหรัฐฯ ไม่สามารถแข่งขันกับจีนและประเทศอื่น ๆ ในด้านการผลิตได้ เนื่องจากขาดแรงงานที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญด้านเครื่องมืออุตสาหกรรมขั้นสูง ทำให้ Apple ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในเอเชียเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม นโยบายภาษีของทรัมป์ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน อาจสร้างแรงกดดันให้ Apple ต้องเร่งปรับกลยุทธ์ซัพพลายเชนใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางสภาพตลาดที่กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ข้อมูล : macrumors