บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) ได้รับเกียรติให้ติดโผดัชนี FTSE Micro Cap ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2568 นี้ โดยผลการคัดเลือกนี้ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากสถาบันต่างประเทศในธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง พร้อมแสดงให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตในอนาคต โดยผู้บริหาร พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 จะเพิ่มเป็น 30,000 ล้านบาท หลังจากโชว์กำไรปี 2567 พุ่งขึ้น 90.75%
บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร ได้รับการคัดเลือกให้ติดโผดัชนี FTSE Micro Cap ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ราคาปิดของวันที่ 21 มีนาคม 2568 นับเป็นก้าวสำคัญที่เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย นายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการของ PCE ได้กล่าวถึงความสำคัญของการคัดเลือกครั้งนี้ว่า การเข้าอยู่ใน FTSE Micro Cap จะช่วยเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนในระดับสากลให้ความสนใจหุ้น PCE มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับราคาหุ้นและสะท้อนถึงสภาพคล่องที่ดี
ผลการดำเนินงานของ PCE ในปี 2567 ยังมีการเติบโตที่โดดเด่น โดยมี รายได้รวม 27,516 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 11.30% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ กำไรสุทธิ 630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.75% จากปีก่อน ซึ่งสามารถบรรลุผลสำเร็จจากการขยายตัวในหลายๆ ด้าน อาทิ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่, ผลิตภัณฑ์จากผลพลอยได้จากปาล์ม, การส่งออกผลิตภัณฑ์ RBDPKO, ธุรกิจไฟฟ้าและขนส่ง รวมถึงการบริหารต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับปี 2568 PCE ตั้งเป้ารายได้จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ 30,000 ล้านบาท โดยยังคงเน้นการขยายกำลังการผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้า รวมถึงการขยายช่องทางจัดจำหน่ายเพื่อรองรับความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกน้ำมันปาล์มไปยังประเทศ จีน และ อินเดีย ซึ่งคาดว่าจะยังคงมีแนวโน้มที่ดีในปีนี้
การติดโผดัชนี FTSE Micro Cap จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความมั่นคงของบริษัทและโอกาสในการเติบโตที่มากขึ้นในอนาคต ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในระดับสากลที่มองเห็นศักยภาพของ PCE ในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ
