StashAway ดันนวัตกรรมขับเคลื่อนการลงทุนต่างประเทศให้ง่ายยิ่งขึ้น

StashAway (สแทชอเวย์) แพลตฟอร์มบริหารการลงทุนด้วยเทคโนโลยีชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำควาทสำเร็จปี 2024 กับภารกิจช่วยคนไทยบรรลุเป้าหมายทางการเงินและสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ลดอุปสรรคในการลงทุนต่างประเทศด้วยเทคโนโลยีบริหารการลงทุนที่เพิ่มศักยภาพการสร้างผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยงอย่างมีหลักการ  ในอัตราค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิมกว่าครึ่ง เดินหน้าก้าวสู่ปีที่ 4 ในไทย ด้วยผลงานสร้างผลตอบแทนปี 2024 ในสกุลเงิน USD สูงสุด 14.6%* หรือเฉลี่ย 8.3%** ในทุกระดับความเสี่ยงสำหรับพอร์ต General Investing ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของลูกค้าเพราะช่วยให้เงินเติบโตอย่างมั่นใจโดยไม่ต้องเครียดเรื่องบริหารจัดการโดยมีกลยุทธ์การลงทุนมาตรฐานเดียวกับสถาบันการเงินระดับโลกอยู่เบื้องหลัง เหมาะสำหรับคนทำงานที่ต้องการลงทุนแต่ไม่มีเวลาและอยากใช้เวลาส่วนตัวไปกับเรื่องสำคัญอื่นๆในชีวิต 

นายยศกร นิรันดร์วิชย CFA กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “StashAway พลิกโฉมการลงทุนต่างประเทศให้เป็นเรื่องง่ายกว่า ดีกว่า และประหยัดกว่าด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ด้วยการนำเสนอการลงทุนแบบ Global Asset Allocation ผ่าน ETF ในสินทรัพย์ทั่วโลกที่บริหารด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะแบบ Data-Driven ในการตัดสินใจแทนการใช้คนที่มักมีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง ส่งผลให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งแม้ตลาดการเงินจะเผชิญความผันผวนในปี 2024 และยังช่วยให้นักลงทุนประหยัดค่าธรรมเนียมได้เกือบเท่าตัวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมแฝง ซึ่งค่าธรรมเนียมที่สูงเป็นสิ่งกัดกินเงินลงทุนแบบที่เราไม่รู้ตัวและมักมองข้ามกันมาเสมอ”

StashAway โดดเด่นในฐานะแพลตฟอร์มบริหารการลงทุนที่มีหลักการระดับสากล เข้าถึงง่าย ค่าธรรมเนียมต่ำ และตอบโจทย์ Pain Points ของนักลงทุนไทยที่ต้องการเตรียมความพร้อมทางการเงินในระยะยาวด้วยการลงทุนแต่ต้อง เผชิญกับความกังวล ขาดความมั่นใจ และขาดความรู้ในการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศที่ซับซ้อนทั้งด้านข้อมูล ภาษา และช่วงเวลาการเปิดตลาด ทำให้การบริหารจัดการการลงทุนด้วยตัวเองเป็นเรื่องท้าทาย นอกจากนี้ นักลงทุนจำนวนมากยังขาดคำแนะนำที่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดการตัดสินใจผิดพลาดและแบกรับความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น StashAway จึงเข้ามาเป็น “โซลูชันที่พลิกโฉมการลงทุนต่างประเทศ” ด้วยแพลตฟอร์มที่บริหารการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดี โปร่งใส ใช้งานง่าย ค่าธรรมเนียมต่ำและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถสร้างและบริหารความมั่งคั่งได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน

นอกจากนี้ StashAway ยังเดินหน้าลดช่องว่างด้านการลงทุนต่างประเทศด้วยฟินเทคที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ Insights ที่ช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรวมพอร์ตของตัวเองได้ง่ายขึ้น พร้อมลดระยะเวลาการฝาก-ถอนลงถึง 50% เสริมศักยภาพด้านการลงทุนให้กับผู้ใช้งานทุกระดับ อีกทั้งยังร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลก Women in ETF ผลักดันโครงการ SHEconomy เพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจในการจัดการเงินแก่ผู้หญิงไทยผ่านแนวคิดของผู้นำหญิงแถวหน้าของเมืองไทย

ความสำเร็จของ StashAway ได้รับการการันตีจากรางวัลระดับโลก โดยได้รับการจัดอันดับ World’s Top 250 Fintech Companies โดยสำนักข่าว CNBC เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และถูกจัดอันดับให้อยู่ในลิสต์ Fintech Innovator ของ Asia ในปี 2024 โดยนิตยสาร Fortune สะท้อนถึงสถานะของแพลตฟอร์มที่กำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรม FinTech ระดับโลก และยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงาน ก.ล.ต. จากการเข้าร่วมโครงการด้านการพัฒนากิจกรรมส่งเสริมความรู้ทางการเงินเพื่อคนไทยอีกทั้งยังสามารถสร้างผลกำไรในประเทศหลักจนได้รับเงินทุนสนับสนุนเพิ่มเติมจาก Venture Capital ระดับโลก

สำหรับทิศทางธุรกิจปี 2025 StashAway มุ่งมั่นยกระดับแพลตฟอร์มให้เป็น “พาร์ทเนอร์การลงทุนต่างประเทศที่ยึดถือประโยชน์ของนักลงทุนเป็นหลัก” พร้อมเดินหน้าพัฒนาแอปพลิเคชันให้ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักลงทุนยุคดิจิทัล และช่วยให้การลงทุนที่ดีเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยตั้งเป้าพัฒนาโซลูชันเพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนจากสินทรัพย์ทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง พร้อมควบคุมความเสี่ยงได้อย่างชาญฉลาด

เรามุ่งหวังให้ StashAway ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มการลงทุน แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ทุกคนบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการบริหารความเสี่ยงที่ดี เพราะการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนและสามารถ Stay invested เพื่อรอรับผลกำไรจากการเติบโตของตลาดได้อย่างเต็มที่ในระยะยาว”  นายยศกร กล่าวทิ้งท้าย

หมายเหตุ: ผลตอบแทนในสกุลเงิน USD พอร์ต General Investing ที่มีระดับความเสี่ยง StashAway Risk Index ที่ 36%  ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2024 – 31 ธันวาคม 2024
หมายเหตุ: ผลตอบแทนเฉลี่ยในสกุลเงิน USD พอร์ต General Investing ในทุกระดับความเสี่ยง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2024 – 31 ธันวาคม 2024

การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน; ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต; การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

เกี่ยวกับ StashAway

StashAway (สแทชอเวย์) คือ แพลตฟอร์มบริหารการลงทุนด้วยเทคโนโลยี ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนรายใหญ่ โดยกลุ่มธุรกิจ StashAway ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนจากหน่วยงานกำกับดูแลใน 5 ประเทศ คือ สิงคโปร์, มาเลเซีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ฮ่องกง และไทย โดยในประเทศไทย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภท ค (ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0136-01) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต. และมีธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้รับฝากทรัพย์สิน

ในเดือนมกราคม 2021 กลุ่มธุรกิจ StashAway มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาไม่ถึง 4 ปี นับตั้งแต่เปิดให้บริการ ซึ่งตลอดเส้นทางการเติบโต StashAway ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยในปี 2020 บริษัทได้รับการยกย่องให้เป็น Technology Pioneer จาก World Economic Forum พร้อมทั้งติดอันดับ Top 10 LinkedIn Startup ในปี 2020 และ 2021 อีกทั้งยังได้รับรางวัล สถาบันการเงินอันดับ 1 จาก SFF Global FinTech Awards 2021 ซึ่งจัดโดย ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) และ สมาคม FinTech สิงคโปร์ (SFA)

นอกจากนี้ ในปี 2023 และ 2024 StashAway ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “World’s Top 250 Fintech Companies” โดย CNBC ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการเงินระดับโลก

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.stashaway.co.th/  และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน StashAway ได้ทาง App Store และ Play Store