จีนส่งตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์รอบที่สอง รวม 1,439 คน
กรุงเทพฯ – ทางการจีนส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำมารับตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนกลับประเทศเป็นรอบที่สอง รวม 1,439 คน หลังถูกกวาดล้างจากฝั่งเมียนมาและถูกควบคุมตัวที่ประเทศไทย ขณะที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เปิดปฏิบัติการจับกุมขบวนการลักลอบนำบัญชีม้าไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคประชาชน ตั้งคำถามถึงความเข้มข้นของมาตรการปราบปราม แนะรัฐบาลต้องเดินหน้าจัดการขบวนการให้ถึงต้นตอ
การส่งตัวกลับจีนผ่านแม่สอด
ที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทางการจีนร่วมมือกับกองกำลังทหารกะเหรี่ยง BGF ในการกวาดล้างและส่งตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน 456 คน กลับประเทศเป็นรอบที่สอง ระหว่างวันที่ 6-9 มีนาคม โดยใช้เครื่องบินของ ไชน่า เซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ ในการรับตัวกลับ มีการควบคุมโดย พ.ท.หน่าย หม่อง โซ รองผู้บังคับกองกำลัง BGF ศูนย์เมียวดี จากสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 มายังด่านพรมแดนแม่สอด ก่อนดำเนินกระบวนการคัดกรองและขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของไทย จากนั้นจึงส่งขึ้นเครื่องบินกลับไปยัง เมืองหนานจิง ประเทศจีน
เที่ยวบินแรกออกเดินทางเมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 7 มีนาคม โดยจะทยอยส่งตัวกลับอีกวันละ 456 คน ในวันที่ 8 มีนาคม และเที่ยวสุดท้ายในวันที่ 9 มีนาคม จำนวน 71 คน รวมทั้งสิ้น 1,439 คน
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับตัวใช้ “สตาร์ลิงก์” หลบเลี่ยงการปราบปราม
ที่ รัฐสภา นาย รังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาลไทยในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยระบุว่าการตัดสัญญาณไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และการงดส่งน้ำมัน เป็นมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อขบวนการเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่สามารถยุติการกระทำผิดได้ทั้งหมด
เขาระบุว่าขณะนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เริ่มปรับตัวโดยหันมาใช้บริการอินเทอร์เน็ตผ่าน โครงข่ายดาวเทียม “สตาร์ลิงก์” ของบริษัทเอกชนต่างชาติ ทำให้มาตรการตัดสัญญาณไม่มีผล รัฐบาลไทยจำเป็นต้องมีการเจรจากับบริษัทที่ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเหล่านี้เพื่อหามาตรการป้องกันเพิ่มเติม นอกจากนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตว่าแม้จะสามารถทลายเครือข่ายไปกว่า 7,000 คน แต่ยังเป็นเพียง “ระดับลูกกระจ๊อก” ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐที่สมรู้ร่วมคิดยังไม่ได้ถูกดำเนินคดี
ปอท.ทลายขบวนการบัญชีม้า เชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา
วันเดียวกัน พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการ ปอท. สั่งการให้เจ้าหน้าที่จับกุมเครือข่ายลักลอบนำบัญชีม้าไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย คือ นายสันติภาพ แซ่เอี้ยว, นายนพดล เถื่อนด้วง, นายรุ่งเรือง พึ่งวงศ์ญาติ และ นายชำนาญ ประสพผล ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
ขบวนการนี้มีการโพสต์เชิญชวนประชาชนผ่านโซเชียลมีเดียให้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อนำไปใช้กระทำผิด โดยให้ค่าตอบแทนบัญชีละ 3,000-5,000 บาท ผู้สมัครต้องเดินทางไปตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว เพื่อสแกนใบหน้า จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาจะพาไปเปิดบัญชีในจังหวัดชลบุรี ก่อนลักลอบนำบัญชีม้าข้ามแดนผ่านเส้นทางธรรมชาติในเวลากลางคืน โดยต้องเดินเท้าประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อส่งให้เครือข่ายในกัมพูชารับช่วงต่อ
จากการสอบสวน นายนพดล รับว่าเป็นผู้สั่งการและติดต่อกับนายหน้าฝั่งกัมพูชาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ส่วน นายสันติภาพ ทำหน้าที่รับบัญชีม้าจากกรุงเทพฯไปเปิดบัญชีในชลบุรี โดยได้รับค่าจ้าง 5,000 บาท ขณะที่ นายรุ่งเรือง และนายชำนาญ ทำหน้าที่พาบัญชีม้าข้ามแดนโดยได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 1,000 บาท ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข้อมูล / ภาพ : มติชน
