เกรียงไกร เธียรนุกุล ตัวแทนจากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้เปิดเผยในที่ประชุมว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 อยู่ในภาวะเสี่ยงสูง โดยการปรับลดประมาณการจีดีพีจาก 2.7% เป็น 2.6% เนื่องจากความกดดันจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงเปราะบาง ซึ่งสะท้อนจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย
การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2568 และความเสี่ยงจากนโยบายการค้า
สภาพเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตในกรอบ 2.4-2.9% โดยการส่งออกจะเติบโตต่ำเพียง 2.5% เนื่องจากผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ เช่น เหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2568 ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าดังกล่าวต้องรับภาระภาษีเพิ่มขึ้น
สัญญาณอ่อนแอของเศรษฐกิจจากตัวเลขจีดีพีและค่าครองชีพ
เศรษฐกิจไทยเริ่มแสดงสัญญาณอ่อนแอลงจากการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ต่ำกว่าคาดการณ์เพียง 3.2% นอกจากนี้ การสำรวจจากสวนดุสิตโพลเผยว่า 51.01% ของประชาชนต้องระมัดระวังการใช้จ่ายเนื่องจากภาวะค่าครองชีพที่สูง ขณะที่ 82.94% กล่าวว่ากำลังซื้อในประเทศยังไม่ขยายตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจในระดับประชาชนชะลอตัว
การรับมือของรัฐบาลและท้าทายต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามเร่งอัดฉีดเงินหมื่นล้านเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังไม่สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคประชาชนได้ตามที่คาดหวัง และการไม่เชื่อมั่นในมาตรการของรัฐบาลที่มีเพียง 30.5% ของประชาชนเห็นด้วย เป็นสัญญาณที่ท้าทายต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยที่รัฐบาลเพื่อไทยต้องเผชิญ
ข้อมูล / ภาพ : ไทยรัฐ
