นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับ กลุ่มทุนจีนเทา ที่เข้าซื้อคอนโดมิเนียมในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ เช่น สุขุมวิท มักกะสัน และห้วยขวาง โดยเฉพาะบริเวณใกล้รถไฟฟ้า เพื่อนำมาปรับปรุงเป็นที่พักเช่ารายวัน ซึ่งพบว่ากว่า 90% ของคอนโดฯ เหล่านี้ถูกใช้ในลักษณะดังกล่าว สร้างความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่นิติบุคคลคอนโดมิเนียมยอมรับว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยตนเอง จำเป็นต้องพึ่งพาหน่วยงานรัฐในการกำกับดูแล
พฤติกรรมการกว้านซื้อคอนโดฯ ของกลุ่มทุนจีนเทา
นายธนพัต ยิ้มสู้ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเจ้าของเพจ “พ่อบ้านบ้าคอนโด” เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มทุนจีนเทาได้เข้าซื้อคอนโดมิเนียมในย่านใจกลางเมือง เช่น สุขุมวิท มักกะสัน และห้วยขวาง โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทั้งใต้ดิน บนดิน และแอร์พอร์ตลิงก์ เพื่อนำมาปรับปรุงเป็นที่พักเช่ารายวัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% ของคอนโดฯ ที่ถูกซื้อไป
ผลกระทบต่อชุมชนและการบริหารจัดการคอนโดมิเนียม
พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม เนื่องจากการเปิดให้เช่ารายวันทำให้มีผู้คนเข้าออกจำนวนมาก สร้างความไม่ปลอดภัยและความไม่สะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังพบว่ามีกรณีที่ชาวจีนเข้ามาเป็นคณะกรรมการนิติบุคคลของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านมักกะสัน และพยายามเปลี่ยนข้อบังคับการพักอาศัยให้คอนโดฯ ดังกล่าวกลายเป็นโรงแรมสำหรับเข้าพักแบบรายวัน ทำให้นิติบุคคลของคอนโดมิเนียมไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับกลุ่มคนเหล่านี้ได้
ความจำเป็นในการกำกับดูแลจากภาครัฐ
นายธนพัต ย้ำว่า หากภาครัฐยังคงเมินเฉยและไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ ในอนาคตอาจมีกลุ่มทุนจีนที่กระทำในลักษณะนี้เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมและภาพลักษณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามากำกับดูแลและแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

ข้อมูล/ภาพ : ไทยพีบีเอส