พรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนท่าที ยอมรับนโยบาย Entertainment Complex

ท่าทีที่เปลี่ยนไปของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” กับ Entertainment Complex

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาแสดงจุดยืนใหม่เกี่ยวกับ Entertainment Complex ที่มีคาสิโนเป็นส่วนหนึ่ง แม้ว่าก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยจะเคยแสดงท่าทีคัดค้านแนวคิดดังกล่าวอย่างชัดเจน ท่าทีที่เปลี่ยนไปนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พรรคได้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนนโยบายนี้

เปลี่ยนคำพูดจาก “ไม่เห็นด้วย” เป็น “ยอมรับ”

ระหว่างการอภิปรายในสภา ฝ่ายค้านได้ตั้งคำถามถึงสาเหตุที่พรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับ Entertainment Complex นายอนุทิน ชี้แจงว่า ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคไม่ได้มีนโยบายสนับสนุน Entertainment Complex แต่ก็ไม่ได้ประกาศคัดค้านอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าร่วมรัฐบาล พรรคจำเป็นต้อง “ยอมรับ” นโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และเดินหน้าตามข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาล

การเปลี่ยนแปลงจุดยืนครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามว่า การปรับท่าทีของพรรคภูมิใจไทยเป็นผลจาก ข้อตกลงทางการเมือง หรือไม่ เนื่องจากในอดีต พรรคมีมติไม่เห็นด้วยกับการตั้งคาสิโนอย่างชัดเจนในสมัยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ในปัจจุบันกลับให้เหตุผลว่า Entertainment Complex ที่มีคาสิโนเพียง 10% ของพื้นที่นั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ซึ่งขัดแย้งกับจุดยืนเดิมของพรรค

ฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัย มี “บางอย่างแลกเปลี่ยน” หรือไม่?

ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้อาจมีเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับ ดีลทางการเมือง โดยเฉพาะในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีการตั้งข้อสงสัยว่าพรรคภูมิใจไทยอาจลงมติสนับสนุนการตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อแลกกับการเดินหน้าโครงการ Entertainment Complex หรือไม่

อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยยืนยันว่า “ไม่มีอะไรแลก ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง” พร้อมย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยยังคงมีจุดยืนปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และจะไม่แตะต้องหมวดที่เกี่ยวข้องกับ สถาบันพระมหากษัตริย์

สัมพันธ์แนบแน่นกับ ส.ว. จุดชนวนข้อครหา

อีกประเด็นที่ถูกจับตาคือ ความสัมพันธ์ระหว่าง พรรคภูมิใจไทย กับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มีแนวทางการลงมติไปในทิศทางเดียวกันหลายครั้ง โดยเฉพาะในประเด็นการทำประชามติและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัยว่าทำไม ส.ว. จำนวนมากจึงมีแนวโน้มลงมติไปในแนวทางเดียวกับพรรคภูมิใจไทยแทบทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยให้เหตุผลว่าทุกอย่างเป็นเพียง “ความบังเอิญ”

สังคมตั้งคำถาม: “การเมืองเก่าในเสื้อคลุมใหม่?”

การที่พรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็วในเรื่อง Entertainment Complex และมีแนวโน้มร่วมมือกับ ส.ว. อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดคำถามว่า พรรคกำลังใช้ ยุทธวิธีทางการเมืองแบบเดิม เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่

ประชาชนจำนวนไม่น้อยกำลังตั้งข้อสงสัยว่า พรรคภูมิใจไทยยังยึดมั่นในอุดมการณ์เดิมที่เคยหาเสียงไว้หรือไม่? หรือกำลังเดินหน้าเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน

อนุทินให้สัมภาษณ์ในรายการ “กรรมกรข่าวคุยนอกจอ”

ล่าสุด นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ ของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยกล่าวถึงประเด็นการสนับสนุน Entertainment Complex ว่า

“ในทางปฏิบัติ เราต้องทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล การพัฒนาประเทศต้องเดินหน้า Entertainment Complex ไม่ได้มีแค่คาสิโน แต่ยังรวมถึงศูนย์ประชุม โรงแรม และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ เราจึงต้องเปิดใจรับแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ”

เมื่อถูกถามถึงข้อครหาว่ามี ดีลลับ กับพรรคเพื่อไทยเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมือง นายอนุทิน ตอบว่า “ไม่มีดีลอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย เราต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ และพรรคร่วมรัฐบาลมีข้อตกลงในการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ไม่มีการต่อรองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว”

อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงของ นายอนุทิน ยังไม่สามารถสลายข้อกังขาของสังคมได้ โดยยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการเปลี่ยนท่าทีของพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้ เป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการเมือง มากกว่าการพิจารณาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก