“วิโรจน์” รับทราบข้อกล่าวหา ปม แก้ ม.112

“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” นำร่อง 44 สส.ก้าวไกล รับทราบข้อกล่าวหาแก้ ม.112 ขัดจริยธรรม เตรียมขอดูรายละเอียดสอบพยานหลักฐานการชี้มูลก่อน ยืนยันดำเนินการสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม ย้ำการแก้ไขกฎหมาย ประกันตัวผู้ต้องหาเป็นสิทธิ สส.

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาตามคำร้อง 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่ร่วมกันเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 สมัยสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านมา ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ กรรมการ ป.ป.ช.ได้ออกหนังสือเชิญ ซึ่ง สส.แต่ละคนจะถูกกำหนดวันรับทราบข้อกล่าวหาต่างกันไป ทำให้บางคนติดภารกิจ หรืออยู่ต่างจังหวัด การจัดการคิวมารับทราบข้อกล่าวหาตามหนังสือเชิญค่อนข้างลำบาก เพราะต้องเสียเวลาราชการ และต้องมีการเลื่อนนัดอื่น ๆ เพื่อให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.ได้มากที่สุด พร้อมยังตั้งข้อสังเกตการออกหนังสือเชิญของ ป.ป.ช.ว่า สส.บางคนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล จะถูกเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาก่อน และ สส.ที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียง ให้มารับทราบภายหลัง และ สส.บางคนยังถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในวันพุธ หรือวันพฤหัสบดี ทั้งที่เป็นวันที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทั้งที่รู้ว่า สส.ต้องปฏิบัติหน้าที่ แต่เหตุใด ป.ป.ช.จึงเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาตามวันดังกล่าว

ส่วนรายละเอียดตามข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาไปนั้น นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า มีรายละเอียดเพียงเรื่องจริยธรรมเพียงอย่างเดียว และหวังว่า การดำเนินการเรื่องจริยธรรมของ ป.ป.ช.กับผู้อื่นนั้น ผู้ที่ดำเนินการก็ควรจะมีจริยธรรมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการปฏิบัติตามระเบียบที่ตนเองตราขึ้นมาอย่างเคร่งครัด

ส่วนการชี้แจงแก้ไขข้อกล่าวหา ป.ป.ช.นั้น นายวิโรจน์ ระบุว่า ตนเองพยายามดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเข้าใจเจ้าหน้าที่ และกรรมการ ป.ป.ช.ด้วย ซึ่งเมื่อตนได้รับหนังสือเรียกรับทราบข้อกล่าวหา ตนก็ได้ทำหนังสือขอตรวจพยานหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหา จึงคาดหวังว่า ทาง ป.ป.ช.ได้เตรียมหลักฐานที่ตนขอตรวจไว้หรือไม่ เพราะโดยหลักการดำเนินการ ผู้ถูกกล่าวหาสามารถขอตรวจพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ใช้ในการกล่าวหาได้เพื่อความเป็นธรรม และจะได้ตรวจสอบอย่างครบถ้วน พร้อมยังได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า เหตุใดผู้ถูกกล่าวหาในคดีจริยธรรม จึงถูกกระทำเหมือนผู้ถูกกระทำไปก่อคดีอาญาเป็นอาชญากร ดังนั้น จึงควรให้ผู้ถูกกล่าวหาได้เข้าถึงพยานหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาได้ด้วย

ส่วนการถูกกล่าวหาครั้งนี้ จะเกี่ยวข้องกับที่ตนเองเคยเคลื่อนไหวเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมถึงการใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวผู้ต้องหาคดี 112 ด้วยหรือไม่นั้น นายวิโรจน์ ระบุว่า จากเหตุดังกล่าวทำให้ตนเองต้องขอตรวจพยานหลักฐานก่อน เพราะตนเองเป็น สส.จะต้องไปร่วมรับฟังความเห็นประชาชนที่มีความเห็นแตกต่างเป็นหน้าที่ของ สส.ที่ต้องยึดโยงประชาชน และได้ดำเนินการโดยเปิดเผย และสุจริต เที่ยงธรรม ตามสโลแกน ป.ป.ช. จึงไม่กังวลใด ๆ และการใช้ตำแหน่ง สส.ประกันตัวผู้ต้องหานั้น ก็เป็นสิทธิตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนได้สิทธิในกระบวนการยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ และเป็นไปตามหลักสากล รวมถึงการยื่นแก้ไขกฎหมาย ในระดับพระราชบัญญัติ ส.ส.ก็พึงกระทำได้อยู่แล้ว

นายวิโรจน์ ยังไม่ขอเปิดเผยถึงแนวทางการชี้แจงแก้ไขข้อกล่าวหา โดยย้ำว่า จะขอตรวจสอบพยานหลักฐานตามที่กรรมการ ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหามาก่อน เพราะตนเองก็ยังไม่ทราบว่า ป.ป.ช.ได้ใช้เหตุใดมาชี้มูลตนเอง เพื่อตนให้สามารถชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ตามข้อเท็จจริง แต่ยืนยันได้ว่า ตนเอง และ 44 สส.ได้ดำเนินการอย่างเปิดเผย โปร่งใส สุจริต มีคำอธิบายต่อสังคม

นายวิโรจน์ ยังมั่นใจว่า จะสามารถชี้แจง และสู้คดีนี้ได้ เพราะหากตนเองไม่มั่นใจ ก็คงจะไม่มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ (21 ก.พ.) และยังมั่นใจในความสุจริตของตนเอง ซึ่งหากย้อนเวลากลับไปได้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงใด ๆ เพราะมั่นใจได้ดำเนินการทุกอย่างโดยชอบตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว เพราะก่อนดำเนินการได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ไม่ได้ดำเนินการตามอำเภอใจ ซึ่งหากดำเนินการผิดพลาด ก็จะต้องมีนักวิชาการออกมาติติงแล้ว

ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ