หนุ่มขับชนไรเดอร์ ได้ประกันตัว ใส่กำไล EM ห้ามออกนอกประเทศ ด้านครอบครัวรับศพทำพิธีทางศาสนา เมียคลายมือบอกไม่ต้องแค้นเขาแล้ว
จากกรณี นายเสรี เศรษฐีนามวงศ์ อายุ 31 ปี ลูกชายเจ้าของร้านขายผ้า ย่านสุขุมวิท ขับเก๋งเฉี่ยวชนคู่กรณีหนุ่มไรเดอร์ฟู้ดแพนด้า แต่ไม่ยอมลงมาเจรจา ซ้ำพยายามขับรถหนี จนหนุ่มไรเดอร์ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปดักหน้า พร้อมทุบกระจกด้านคนขับ ทำหนุ่มเก๋งเปิดประตูลงมาชกจนคว่ำก่อนกระทืบซ้ำ หนุ่มไรเดอร์สู้ไม่ได้ ขี่รถหนีไปแค่ 100 เมตร คู่กรณีตามมาทันขับชนจนไรเดอร์ร่างกระเด็นฟาดเสาเหล็กวงจรปิด กทม. อย่างแรง จนกระดูกหัก ตัวงอ เสียชีวิต ขณะที่หนุ่มซิกข์ ถูกจับในที่เกิดเหตุ และเมื่อช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่มีการคุมตัวไปฝากขัง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เวลา 12.30 น. นางสายใจ ตามบุญ อายุ 40 ปี ภรรยา พร้อมลูกสาวอีก 2 คน ของนายฤทธิเดช ประคุปตานนท์ ไรเดอร์ผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่ สน.ลุมพินี เพื่อติดต่อเอกสารขอรับศพสามี
นางสายใจ ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า เปิดเผยว่า วันนี้จะไปรับศพสามีที่นิติเวช รพ.จุฬาฯ นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดคลองเตย เบื้องต้นได้พูดคุยกับทางตำรวจ ญาติของผู้ก่อเหตุบอกผ่านกับทางเจ้าหน้าที่ และรับปากว่า จะรับผิดชอบค่าจัดงานศพให้ ส่วนเรื่องเยียวยายังไม่ได้พูดคุย ช่วงเย็นวันนี้ญาติฝั่งผู้ก่อเหตุจะเข้ามาขอขมาศพสามีแทน นายเสรี ส่วนลูก ๆ 4 คน ตนก็ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงต่อไป
ก่อนที่จะเดินทางไปอัญเชิญวิญญาณ บริเวณจุดเกิดเหตุริมถนนสุขุมวิท
ด้าน น้องพั้นช์ อายุ 19 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า อยากให้พ่อของตนได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง ตัวเองรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากฝากขอโทษพ่อที่เคยทำไม่ดีไว้ ที่เคยไม่เชื่อฟัง อยากให้พ่ออโหสิกรรมให้ตน น้าต้นจะดูแลน้อง พี่สาว และแม่ให้แทนพ่อ ให้พ่อพักผ่อนให้สบาย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า นายเสรี ผู้ต้องหา ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ด้วยหลักทรัพย์เงินสด 6 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้ติดกำไล EM
โดย นางสายใจ เผยหลังทราบข่าวว่า รู้สึกกังวลใจที่จะไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ขอยืนยันว่าตนและลูกจะทวงความยุติธรรมให้ถึงที่สุด เบื้องต้นมีเพียงพ่อเขาที่ประสานเข้ามาช่วยเหลือ ตัวคู่กรณีมีโอกาสเจอเมื่อเช้าที่ สน.ลุมพินี ก็ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งเจ้าตัวควรรับผิดชอบเอง ไม่ใช่ให้พ่อมารับผิดชอบแทน
ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ