‘บิ๊กอ้วน’ อาลัยพ่อ-ลูก ครู ตชด.เสียชีวิตจากเหตุคาร์บอม จ.นราธิวาส เตรียมคุย สมช.ถอดบทเรียน วางแนวทางแก้ไข คาดสิ้นเดือนนี้รู้แนวทาง ไม่กังวลนายกฯลงใต้ เคร่งเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่บริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ตามเดิม หลังเกิดเหตุพ่อ-ลูก ตชด.เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดรถยนต์ว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีมีความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว ซึ่งการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีและตนนั้นเป็นการลงพื้นที่เพื่อดูแลวางมาตรการ คลี่คลายปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ภาคใต้ก็ต้องไม่ประมาท ผู้ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้ ต้องทำอย่างเต็มที่ พร้อมให้หลักประกันเพราะมีผู้นำประเทศไปด้วยตัวเอง
ส่วนการเสียชีวิตของพ่อ-ลูก ตชด.นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคงมีสารหรือข้อความแสดงความเห็นใจ พร้อมกับให้กำลังใจกำลังพล ซึ่งเป็นผู้ที่ต่อสู้ ปกป้องเสี่ยงภัยในที่ต่างๆ ทำให้เกิดความสงบ และมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียตลอดเวลา ทหารคงไม่มีปัญหากับเรื่องเหล่านี้ เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลปกป้องประชาชน
“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญและมีความจำเป็นต้องหาทางแก้ไข โดยเฉพาะการพูดคุยกับสภาความมั่นคง (สมช.) อยากให้ทบทวนที่ทำมาแล้วทั้งหมดว่าดีหรือไม่ เพื่อสามารถถอดบทเรียน นำไปแก้ไขปัญหา หรือนำไปขยายผลให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ภายในสิ้นเดือนนี้ (ม.ค.) คงมีข้อสรุปแนวทางให้สามารถนำไปปฏิบัติได้บ้าง” นายภูมิธรรมกล่าว
นายภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า ขณะที่แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่นายกฯแพทองธารจะสานต่อกับอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เป็นเป้าหมายหลักอยู่แล้ว วันนี้ไม่อยากให้สร้างเรื่องการเมือง หรือความขัดแย้งในประเทศเป็นประเด็น สิ่งที่อยากเห็นในภาคใต้ตอนนี้คงเป็นความสงบ ไม่อยากเห็นความรุนแรง ความสูญเสียเกิดขึ้น รวมไปถึงด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษาต้องส่งเสริมให้ดีขึ้น ถือเป็นเป้าหมายหลักที่จะต้องลงไปดู
“หลังจากได้พูดคุยกับนายกฯมาเลเซีย ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่าอยากเห็นความสงบเกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และเกิดการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันทั้งสองฝ่าย” นายภูมิธรรมกล่าว
ข้อมูล/ภาพ : มติชน