โลกแรงงานปี 2568 เตรียมเจอกับคลื่นลูกใหม่ อาชีพเดิมหายไป อาชีพใหม่เติบโต อนาคตแรงงานถูกท้าทายด้วยเทคโนโลยี-สิ่งแวดล้อม
ปี 2568 เป็นช่วงเวลาที่แรงงานทั่วโลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดงานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก ปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคตชี้ให้เห็นว่า อาชีพหลายสายงานจะต้องเปลี่ยนแปลงหรือหายไป ขณะที่อีกหลายสายงานกลับมีการเติบโตอย่างน่าทึ่ง
รายงาน Future of Jobs ปี 2025 โดย World Economic Forum ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานมาจาก 5 ด้านสำคัญ ได้แก่
- การพัฒนาเทคโนโลยี
- การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว
- การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์
- การเปลี่ยนแปลงประชากร
- ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้นายจ้างทั่วโลกต้องเร่งปรับตัวเพื่อรับมือ
อาชีพที่มีการเติบโตสูงสุด 15 อันดับแรกที่ตลาดงานต้องการภายในปี 2573 ได้แก่…
- นักวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Specialists)
- วิศวกร FinTech
- ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และการเรียนรู้ของเครื่อง (AI and Machine Learning Specialists)
- นักพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน (Software and Applications Developers)
- ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความปลอดภัย (Security Management Specialists)
- ผู้เชี่ยวชาญด้านคลังข้อมูล (Data Warehousing Specialists)
- ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไร้คนขับ (Autonomous and Electric Vehicle Specialists)
- นักออกแบบ UI และ UX (UI and UX Designers)
- พนักงานขับรถส่งของ (Light Truck or Delivery Services Drivers)
- ผู้เชี่ยวชาญด้าน Internet of Things (Internet of Things Specialists)
- นักวิเคราะห์และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Analysts and Scientists)
- วิศวกรสิ่งแวดล้อม (Environmental Engineers)
- นักวิเคราะห์ความปลอดภัยด้านข้อมูล (Information Security Analysts)
- วิศวกร DevOps
- วิศวกรพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Engineers)
หนึ่งในแนวโน้มที่เห็นได้ชัดเจนคือบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ส่งผลกระทบต่อทุกสายงาน นับตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ในปี 2565 การลงทุนใน AI เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อาชีพที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น นักพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล และวิศวกร FinTech ต่างติดอันดับต้นๆ ของอาชีพที่มีการเติบโตสูงสุดในอีกห้าปีข้างหน้า
ในขณะเดียวกัน ความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอนและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้กระตุ้นความต้องการในสายงานด้านพลังงานหมุนเวียน วิศวกรสิ่งแวดล้อม และผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว
อย่างไรก็ตาม อาชีพที่เกี่ยวข้องกับงานสำนักงานแบบดั้งเดิม เช่น พนักงานบัญชี เลขานุการ และพนักงานต้อนรับ กลับต้องเผชิญกับการลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีใหม่ๆ
สิ่งที่น่าสนใจคือ บทบาทของแรงงานที่ต้องใช้ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์และการดูแลผู้คนกลับมีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น พยาบาล ครู และผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ที่มีอัตราการเกิดลดลงและประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นยังสร้างโอกาสให้กับงานที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ (UI/UX) และการวิเคราะห์ข้อมูล อาชีพเหล่านี้ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในยุคที่เทคโนโลยีขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ดี ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ย่อมมาพร้อมกับความท้าทาย ตลาดงานในอนาคตต้องการแรงงานที่มีความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นายจ้างกว่า 92% ยืนยันว่าจะลงทุนในการอบรมและเพิ่มทักษะแก่พนักงาน เพื่อให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือการสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีกับการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ หากเทคโนโลยีถูกใช้เพื่อเสริมศักยภาพของแรงงานแทนการแทนที่ การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะไม่เพียงแต่สร้างโอกาสใหม่ แต่ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำในตลาดแรงงาน
ในอนาคต งานที่เติบโตเร็วที่สุดไม่ได้เป็นเพียงงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงงานที่ช่วยเชื่อมโยงและดูแลผู้คน อาชีพเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะ “รอด” แต่ยัง “รุ่ง” ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดนิ่ง

ข้อมูล/ภาพ : ฐานเศรษฐกิจ , กรุงเทพธุรกิจ