เศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มเผชิญภาวะชะลอตัวจากปัจจัยหลายด้าน เช่น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ยสูง และการบริโภคภายในประเทศที่ลดลง ในบริบทนี้ ธุรกิจบางประเภทสามารถปรับตัวและเติบโตได้ดี ในขณะที่บางประเภทอาจประสบปัญหาหนัก นี่คือภาพรวมของ 5 ธุรกิจ “ดาวรุ่ง” และ 5 ธุรกิจ “ดาวร่วง” ที่ควรรู้
5 ธุรกิจดาวรุ่งในปี 2568
- ธุรกิจสุขภาพและความงาม
- เทรนด์ใส่ใจสุขภาพและความงามยังคงมาแรง
- อาหารเสริม, ฟิตเนส, คลินิกสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกเติบโตต่อเนื่อง
- ธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีสีเขียว
- พลังงานทดแทน เช่น แสงอาทิตย์, ลม และโซลูชันลดคาร์บอน ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น
- ธุรกิจ EV และสถานีชาร์จไฟฟ้าเติบโตตามนโยบายสนับสนุน
- ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์
- ช้อปปิ้งออนไลน์ยังได้รับความนิยม โดยเฉพาะในต่างจังหวัด
- บริการจัดส่งสินค้าและเทคโนโลยีซัพพลายเชนจะขยายตัวควบคู่กัน
- ธุรกิจการศึกษาและพัฒนาทักษะ
- การเรียนรู้ด้าน AI, Coding และ Data Analysis ยังคงเป็นที่ต้องการ
- แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์และคอร์สพิเศษสำหรับวัยทำงานเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ
- ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและชุมชน
- Wellness Tourism และการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนยังดึงดูดนักท่องเที่ยว
- รีสอร์ทสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเติบโตต่อเนื่อง
5 ธุรกิจดาวร่วงในปี 2568
- ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม
- ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าที่ยังไม่เข้าสู่โลกออนไลน์ยอดขายลดลง
- ความไม่สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ทำให้ต้องเผชิญการปิดตัว
- ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยระดับกลาง-ล่าง
- ภาระหนี้สินและกำลังซื้อที่ลดลงส่งผลให้ตลาดบ้านและคอนโดกลุ่มนี้หดตัว
- ธุรกิจสินค้าแฟชั่นราคาสูง
- การระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภคในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ยอดขายลดลง
- แบรนด์ที่ไม่ปรับตัวด้วยสินค้าราคาจับต้องได้เผชิญปัญหา
- ธุรกิจโรงภาพยนตร์และบันเทิงแบบออฟไลน์
- การแข่งขันจากแพลตฟอร์มสตรีมมิงและออนไลน์ลดความนิยม
- ผู้บริโภคหันไปหาความบันเทิงที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า
- ธุรกิจพลังงานดั้งเดิม (น้ำมันและถ่านหิน)
- การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและข้อกำหนดสิ่งแวดล้อมทำให้ธุรกิจฟอสซิลอยู่ในช่วงขาลง
เศรษฐกิจชะลอตัวในปี 2568 เป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย ธุรกิจที่ตอบสนองต่อเทรนด์ เช่น สุขภาพ ความยั่งยืน และเทคโนโลยี มีโอกาสเติบโต ในขณะที่ธุรกิจที่ยังยึดติดกับโมเดลแบบเดิมต้องเผชิญปัญหาใหญ่ การจับกระแสและปรับตัวให้เหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคจะเป็นปัจจัยชี้ขาดว่าใครจะอยู่รอดและใครจะล้มในปีนี้

ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย